ถ้าใครติดตามหรือเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มคนรักบุฟเฟ่ต์ต้องเคยเห็นร้านนึงที่ปัจจุบันถูกพูดถึงและมีรีวิวออกมายั่วน้ำลายสายอาหารทะเลอยู่เรื่อยๆนั่นก็คือ "วานเผา By Burn Whale" ถือเป็นอีกหนึ่งร้านในตำนาน ซึ่งเมื่อก่อนเปิดให้บริการอยู่ในสยามสแควร์ซอย 2 ก่อนย้ายมาอยู่บนห้าง Siam Square One ชั้น 5 ในปัจจุบัน จุดเด่นของที่ร้านนี้ที่ถูกใจวัยรุ่นชาวสยามก็คือ "บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดใจกลางสยาม ไม่ต้องปิ้งย่างเองให้หัวเหม็น" ราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 499 บ.+ ขนกันมายกทะเลเสิร์ฟทั้งทะเลเผา/ซูชิ/ซาชิมิและเมนูไทยสุดแซ่บรวมกว่า 80 รายการ ให้นั่งทานได้ไม่อั้นตลอด 100 นาที หรือ 1.40 ชม. วิธีการเดินทางก็ถือว่าสะดวกสุดๆถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดบนแผนที่ในมือถือโดยรอบบริเวณพื้นที่นี้มีจอดรถให้บริการอยู่มากมาย ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะก็ยิ่งง่ายเพราะ ลง BTS สถานีสยามแล้วมีทางเดินพิเศษเชื่อมต่อตรงสู่ภายในห้างนี้ได้ทันที ที่ตั้งร้านถือว่าหาง่ายเพราะอยู่ใกล้บันไดเลื่อนชั้น 5 ฝั่งติดกับโรงแรมโนโวเทลสยามสแควร์ โดดเด่นเห็นชัดเจนมาตั้งแต่ระยะไกลด้วยป้ายไฟชื่อร้านถูกเขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า "Burn Whale" ขนาดใหญ่และกระจกใสบานกว้างพิเศษเรียงกันเป็นแนวยาวที่ทำให้ สามารถมองเห็นบรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างสวยงามและดูอบอุ่นแบบนี้แสดงว่ามาถึงร้านกันแล้วครับผม
ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเรามาดูเมนูต่างๆที่ป้ายบนกระจกหน้าร้านกันก่อนว่ามีอะไรให้สั่งกันบ้าง ซึ่งบุฟเฟ่ต์ของร้านนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 ราคาก็คือ 1.บุฟเฟ่ต์ราคา 499 บาท+ หรือ 549 บาทสุทธิ สั่งอาหารได้รวมกว่า 50 เมนู 2. บุฟเฟ่ต์ราคา 699 บาท+ หรือ 769 บาทสุทธิ สั่งอาหารได้รวมกว่า 85 เมนู มีเครื่องดื่ม/ไอศครีมและขนมหวานให้ทานไม่อั้นทั้ง 2 ราคา มีจุดแตกต่างกันตรงความหลากหลายและความพรีเมี่ยมของวัตถุดิบบางชนิดถูกเพิ่มขึ้นมา หมวดอาหารต่างๆก็ถูกแยกกันอย่างชัดเจนทั้งทะเลปิ้งปิ้งเตาถ่าน/ทะเลอบชีส/ทะเลนึ่ง/เมนูกับข้าวรสจัดจ้านสไตล์ชาวเล/ยำทะเลแซ่บรสเด็ด/ยำปลาใส่ร้าสุดนัว/พิซซ่าหน้าทะเลอบชีส/ของทอดทำจากซีฟู้ดชนิดต่างๆ/เมนูผัดเส้น-จานเดียว/ซูชิกับซาชิมิหน้าต่างๆ/ข้าวสวย-ข้าวผัด/น้ำซุปร้อนๆซดคล่องคอและผักสดเพิ่มไฟเบอร์ โดยรวมถือว่าดูดี-มีให้เลือกหลากหลายน่าสนใจมากแต่ความสด-อร่อยแซ่บจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราเข้าไปพิสูจน์ด้านในกันเลยครับ
พื้นที่ภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆนั่นก็คือ 1.โซนด้านหน้าประตูทางเข้าติดริมกระจกบานกว้างพิเศษมองออกไปด้านนอกเป็นวิวภายในห้างสยามสแควร์วัน 2.โซนด้านหลังร้านที่มีกระจกเปิดรับแสงจากธรรมชาติเข้ามาทำให้ภายในดูสว่างสดใสสวยงามมองออกไปด้านนอกเป็นถนนกับตึกโรงแรมโนโวเทลสยามสแควร์ ส่วนการตกแต่งภายในร้านทั้งหมดใช้ธีมทะเลผสมกะลาสีเรือกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นอบอุ่นร่วมสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนชื่อดังสมัยเด็กยุค 90's ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีอย่าง "Pinocchio" ใช้ไฟทั้งหมดเป็นดวงกลมสีส้มให้ความรู้สึกเหมือนฟองคลื่นทะเลถูกกระทบกับแสงแดดยามเย็น ชวนให้หยิบกล้องออกมาถ่ายภาพภายในร้านตามมุมพร้อมโพสต์ท่าอวดเพื่อนๆได้อีกหลายรูป ส่วนโต๊ะกับที่นั่งมีให้เลือกทั้งแบบมาเป็นคู่-กลุ่มเพื่อนเล็กๆหรือยกพวกมาฉลองกันทั้งบริษัทก็ต่อโต๊ะเพิ่มเก้าอี้หรือจองมุมโซฟายาวกันได้ตามใจ วันนี้ตอนที่เรามาถึงมีลูกค้าท่านอื่นๆใช้บริการอยู่ค่อนข้างน้อยและมุมด้านหลังร้านมีแสงส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาดูละมุนดีมากเลยเลือกที่นั่งกันแถวนี้กันดีกว่าครับ
มาถึงพนักงานก็ยกเล่มเมนูแบบเดียวกับบนกระจกหน้าร้านเมื่อกี้มาให้เราเลือกราคาบุฟเฟ่ต์ที่อยากจะทานมื้อนี้กันก่อนและป้ายด้านหลังเป็นกฎ-กติกาต่างๆทั้งภาษาไทยและอังกฤษมีทั้งหมด 6 ข้อใจความสำคัญโดยคร่าวๆก็คือ 1. จำกัดเวลา 100 นาทีและสั่งผ่านใบออเดอร์เท่านั้นถ้าอาหารมาช้าให้ตามกับพนักงานก่อนเขียนลงใบใหม่ 2. ทานอาหารไม่หมดหรือตั้งใจเหลือทิ้งมีค่าปรับตามที่กำหนด 3. เสิร์ฟผิดขอคืนได้ทันทียกเว้นสั่งผิดเองไม่สามารถยกเลิกได้ 4. ห้ามสั่งกับพนักงานปากเปล่าเพื่อป้องกันออเดอร์ตกหล่น 5. สั่งได้เฉพาะเมนูที่ร้านกำหนดไม่ดัดแปลงเพื่อคงมาตรฐานเอาไว้ 6. นั่งนานกว่า 10 นาทีขึ้นไปปรับ 100 บาทต่อคน ส่วนวันนี้เราเลือกทานกันเป็นบุฟเฟ่ต์ราคา 699 บาท+ ก็จะได้เป็นใบสั่งอาหารมาแบบนี้อยากทานเมนูไหนก็เขียนจำนวนลงไปได้ตามใจ มาพร้อมกับ โชยุ-วาซาบิ/น้ำพริกเผา-หอมเจียว/น้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มบ๊วย บนโต๊ะมีถังให้ใส่เปลือก/กรรไกร/กระดาษทิชชู่และแก้วน้ำดื่มให้เดินไปกดเองที่จุดบริการ เครื่องดื่มเติมได้ทั้ง น้ำอัดลม (โค้ก/โค้กซีโร่/สไปรท์และแฟนต้าน้ำแดง) น้ำเปล่า/บลูโอเชี่ยน/พั้นซ์และชามะนาวข้างๆกันเป็นตู้น้ำแข็งและไอศครีมตักได้ไม่อั้นรวมในราคาบุฟเฟ่ต์เรียบร้อยก็พร้อมลุยกันแล้วครับ
จานแรกเป็นเมนูซีฟู้ดเผาและนึ่งสั่งมาแบบรวมๆชุดใหญ่เริ่มชิมจาก "กั้งกระดาน" เนื้อสดแน่นหัวเต็มไปด้วยไข่ไม่มีกลิ่นแอมโมเนียเหม็นๆแบบหลายร้าน "ปูม้านึ่ง" ทางร้านก็เสิร์ฟมาตัวใหญ่เนื้อหวานฉ่ำเด้งแกะกรรเชียงออกมาได้สวยงามเคี้ยวเต็มคำและถึงแม้จะเป็นแค่ส่วนตรงข้อต่อเล็กๆก็ยังเต็มไปด้วยเนื้อปูแสดงถึงความสดได้เป็นอย่างดี "กุ้งก้ามกราม" หรือ "กุ้งแม่น้ำ" ทางร้านย่างมาให้สุกกำลังดีเนื้อเด้งฉ่ำไขมันในหัวอัดแน่นพร้อมทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดรสเปรี้ยวอมหวานตัดเค็มนิดๆใส่พริกสดสีเขียวและกระเทียมลงไปแบบจัดเต็มถึงใจสั่งมาเพียงแค่ถาดเดียวคงไม่พออย่างแน่นอน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีตัวที่ความสดกลางๆแต่ไม่ถึงกับเนื้อเละจนทานไม่ได้ปะปนรวมกันอยู่นิดหน่อยในกรณีที่พบสามารถบอกกับน้องพนักงานเพื่อขอเปลี่ยนเป็นจานใหม่ได้ทันทีไม่เสียค่าปรับเพิ่มแต่อย่างใดครับ
จานต่อมาเป็นเมนูย่างและอบชีสก็ยังคงสั่งมาแบบรวมๆทั้งปลาหมึกกล้วยเนื้อเด้งเคี้ยวสู้ฟัน/ปลาหมึกกระดองหั่นมาเนื้อหนาสดแน่นเต็มปาก/ปลาหมึกยักษ์เล็กหรือหมึกสายย่างทั้งตัว/หอยเชลล์อบเนยกระเทียมและหอยเชลล์ย่างชีสตัวไม่ใหญ่แต่เนื้อแน่น ส่วนชีสใช้เป็นแบบมอสซาเรลล่ายืดๆรสชาติหอมนมเคี้ยวหนึบเข้ากับหอยได้เป็นอย่างดี จานต่อไปแฟนผมชอบมากเลยสั่งมานั่นก็คือ "หอยนางรมทรงเครื่อง" เดาว่าน่าจะเป็นหอยนางรมอางศิลาตัวอ้วนเนื้ออวบแน่นเปลือกบางเสิร์ฟพร้อมยอดกระถิน เวลาจะทานให้ประโคมลงไปทั้งน้ำพริกเผา-น้ำจิ้มซีฟู้ดและโรยด้วยหอมเจียวแบบฉ่ำๆก่อนจะใช้ช้อนช่วยดันเนื้อหอยนางรมสดๆเนื้อมันหวานฉ่ำเข้าปาก รอบแรกเนื้อแน่นสวยอวบเต็มเปลือกดีรอบหลังมีตัวเล็กหลุดออกมาบ้างแต่ความสดหวานไม่ทิ้งห่างกันมากนักก็ถือว่ารักษามาตรฐานได้ดีเลยครับ
จานต่อไปเป็นเมนูหอยย่างและอบแบบรวมกันหลายอย่าง เริ่มจาก "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ย่างซอสซัลซ่า" เป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวขนาดกลางย่างมาสุกกำลังดีเคี้ยวหนึบๆสู้ฟันราดด้วยซอสซัลซ่าสลัดสไตล์เม็กซิกันรสชาติเปรี้ยวอมหวานลงไปด้านบนก่อนเสิร์ฟอร่อยครบจบในคำเดียวได้เลยโดยไม่ต้องราดน้ำจิ้มซีฟู้ดลงไปเพิ่มแต่อย่างใด มาต่อกันด้วย "หอยหวานนึ่ง" เนื้อแน่นเด้งกระชับเคี้ยวสู้ฟันไม่มีกลิ่นเหม็นแอมโมเนียทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดฟินห์ง่ายๆ "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส" ไซส์กลางอบมาเนื้อเด้งสู้ฟันเพิ่มความหอมมันด้วยมอสซาเรลล่าชีสยืดๆ จะแกะทานทันทีหรือผสมน้ำจิ้มซีฟู้ดสไตล์ไทยลงไปเล็กน้อยก็เข้ากันได้ดีสุดๆ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เลยสั่ง "กุ้งก้ามกรามย่าง" มาเพิ่มอีกหนึ่งอีกถาดนึงคุณภาพสดเด้งหัวมันเยอะดีไม่ต่างจากถาดแรกที่เสิร์ฟเลยครับ
จานต่อมาเป็นเมนูยำรสแซ่บนัวต่างๆสั่งมาหลากหลายเริ่มจาก ยำปลาร้าใส่กุ้งสด/ยำปลาร้าใส่หมึกสายลวกสุกและยำปลาร้าแซลมอนสด ทุกจานใส่เครื่องเหมือนกันหมดก็คือเมล็ดข้าวโพดหวาน/ผักชีใบเลื่อย/หอมแดงและพริกสด น้ำยำรสหวานนำเค็มกลมกล่อมนวลปลาร้าทานง่ายๆตามแบบฉบับร้านยำยุคใหม่ที่ขายกันราคาแพงๆแต่ร้านที่นี่เอามาเสิร์ฟให้ทานได้ไม่อั้น กุ้งสด-แซลมอนที่ใช้เนื้อหวานเด้งซึมซับรสชาติน้ำยำเข้าไปภายในเนื้ออย่างเต็มที่ ยกเว้นปลาหมึกสายที่ต้องซดตามหน่อยแต่ก็อร่อยได้มาตรฐานเหมือนกันทั้ง 3 จาน เมนูต่อไปเป็นก็ยังคงเป็นยำแซ่บสไตล์อีสานก็คือ "ลาบแซลมอนแซ่บ" เป็นซาชิมิปลาแซลมอนคลุกลงในเครื่องลาบอีสานรสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นพริกป่น/ข้าวคั่วและสมุนไพรแบบจัดเต็มอร่อยทานง่ายไม่เลี่ยนไขมันแซลมอนดี จานสุดท้ายเป็น "พล่ากุ้งทะเล" เป็นกุ้งขาวเอาไปลวกสุกก่อนยำใส่กะทิ-น้ำพริกเผารสชาติเปรี้ยวอมหวานนัวกะทิกลมกล่อมทานง่ายๆไม่จี๊ดจ๊าดจนเกินไป
จานต่อไปก็ยังคงอยู่ในหมวดยำแซ่บหน้าตาดูพรีเมี่ยมนั่นก็คือ "กุ้งดองน้ำปลา" ทางร้านใช้กุ้งไซส์ใหญ่พิศษเอามาตัวหัวและดึงเส้นดำตรงสันหลังออกก่อนนำไปดองในซอสน้ำปลาปรุงรสให้เค็มหวานกลมกล่อมสไตล์ไทย เนื้อกุ้งสดเด้งกรอบสู้ฟันตัวใหญ่เคี้ยวเต็มคำ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดสาดพริกสดและกระเทียมสับเป็นชิ้นบอกเลยว่าเด็ดมากๆ จานต่อไปสั่งเป็นเมนูใหม่ที่เพิ่มขัึ้นมาในใบสั่งอาหารล่าสุดคือ "หมึกนึ่งมะนาว" ทางร้านเอาหมึกกระดองมาหั่นให้ชิ้นหนาเนื้อแน่นเด้งเคี้ยวสู้ฟันเอามานึ่ง ราดซอสน้ำมะนาวปรุงรสชาติเปรี้ยวอมหวานเพิ่มพริก-กระเทียมสับให้เผ็ดๆจี๊ดจ๊าดตามแบบฉบับไทยแท้อร่อยแซ่บดีมาก จานต่อมาอยู่ในหมวดเมนูผัดคือ "หอยตลับผัดพริกเผา" เนื้อหอยเคี้ยวหนึบๆผัดพร้อมกับเปลือกส่วนน้ำซอสปรุงรสชาติมาหวานเผ็ดกลมกล่อมให้กลิ่นหอมด้วยใบกะเพรากรอบทานเพลินดีครับ
ใครที่เป็นสายญี่ปุ่นทางร้านก็มีซูชิ-ซาชิมิให้สั่งทานได้ไม่อั้นเริ่มจาก "ชุดรวมซาชิมิ" ประกอบไปด้วยซาบะดอง/แซลมอน/ทูน่าหรือมากุโร่/ปูอัดและไข่หวาน โดยรวมถือว่าคุณภาพพอใช้ยกเว้นแซลมอนกับซาบะดองที่อร่อยมากๆแต่ตัดเสิร์ฟชิ้นเล็กไปหน่อยต้องสั่งเพิ่มอีกหลายรอบ (เฉพาะแซลมอนมีซาชิมิเป็นจานให้แยกได้) จานต่อไปเป็นซูชิที่สั่งมารวมทุกหน้าในจานเดียวทั้งแซลมอน/แซลมอนเทอริยากิ/แซลมอนเบิร์นชีส/แซลมอนสไปซี่/ทูน่า/ซาบะดอง/เอบิมาโยและปลาไหลญี่ปุ่นส่วนตัวถือว่าอร่อยแต่ข้าวก้อนใหญ่หน้าน้อยไปนิด ถ้าปรับให้สมดุลกว่านี้หน่อยจะดีมากๆครับ สั่งโรลซูชิมาลองอีกเมนูเป็น "แซลมอนโรลสไปซี่" เสิร์ฟชุดละ 4 คำ เป็นซูชิไส้แตงกวาญี่ปุ่น/ปูอัดและไข่หวานม้วนสาหร่ายแบบกลับด้านท๊อบปิ้งด้วยเนื้อปลาแซลมอนราดซอสสไปซี่เผ็ดอมเปรี้ยว/ซอสเทริยากิมีรสหวานและมายองเนสหอมมันเพิ่มความกรอบด้วยแป้งเทมปุระทอดกับไข่ปลาบินปรุงรสกลมกล่อมอร่อยมาก แนะนำว่าให้บริหารพื้นที่ภายในกระเพาะก่อนสั่งเพราะชิ้นใหญ่พอตัว จานต่อมาสั่งแต่เมนูแซ่บๆหลายจานแล้วเลยสั่งข้าวมาทานด้วยกันเป็น "ข้าวผัดหมึกยักษ์" เป็นข้าวผัดกระเทียมสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติเข้มข้นหอมเนยและกระเทียมเสิร์ฟมาคู่กับปลาหมึกสายย่างตัวจิ๋วเคี้ยวกรุบกรอบเนื้อแน่นโรยด้วยต้นหอม เป็นเมนูที่หน้าตาธรรมดาแต่รสชาติดีกว่าที่เห็นเยอะเลยครับ
ของทอดที่ร้านนี้มีเยอะมากจนไม่รู้จะสั่งอะไรเลยจัดมาแบบรวมๆก็คือ ฟิชสติกเนื้อแน่นเต็มไปด้วยปลา/เกี๊ยวซ่าไส้ไก่ทอด/ปอเปี๊ยะทอดกรอบไส้ผักผสมวุ้นเส้น/ทอดมันกุ้งทำจากกุ้งบดละเอียดผสมสับหยาบเนื้อแน่น/กุ้งพันด้วยตะไคร้ทอดและหมึกฮอกไดโดชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยรสหวานอมเปรี้ยวเข้ากันได้เป็นอย่างดี จานต่อมาเป็น "ปลาดอรี่ชุบแป้งทอดผักพริกเกลือ" เป็นเนื้อปลาแพนกาเซียสดอรี่ชุบแป้งทอดกรอบๆคลุกให้เข้ากันกับเครื่องผัดพริกเกลือสไตล์จีนรสเค็มหวานกลมกล่อมทานง่าย ตามมาด้วย "กุ้งทอดราดซอสมะขาม" ทางร้านเอากุ้งไซส์ใหญ่มาชุบแป้งทอดกรอบราดด้วยซอสมะขามรสเปรี้ยวอมหวานเพิ่มความกรุบกรอบด้วยหอมเจียวอร่อยราวกับร้านภัตตาคารชื่อดังแถมสั่งได้ไม่อั้นด้วยครับ ตามมาด้วยเมนูฝรั่งที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนใจกลางเมืองมีเสิร์ฟราคาค่อนข้างแพงแต่ที่ร้านนี้ให้สั่งได้ไม่อั้นคือ "พิซซ่าโฮมเมดแป้งบางกรอบ" จัดมาทุกหน้าทั้งปูอัด/มาการิต้า/ทะเลและปลาแซลมอน เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศแป้งบางกรอบสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ใส่ชีสและเครื่องลงไปแบบไม่ยั้ง รวมแล้วพิซซ่าทั้งจานนี้หากไปสั่งที่ภัตตาคารคงไม่ต่ำกว่าที่ละ 300 บาทขึ้นไปอย่างแน่นอน ถือว่าคุ้มค่าดีมากๆเลยครับ
ชุดสุดท้ายเป็นเมนูเส้นต่างๆเริ่มจาก "สปาเก็ตตี้ซอสครีมไข่กุ้ง" เสิร์ฟมาดูหน้าตาและสีสันจืดๆแต่รสชาติอร่อยเริ่มจากเส้นลวกมาสุกกำลังดีคลุกกับไวท์ซอสรสเค็มกลมกล่อมหอมมันครีมนม เพิ่มความนัวด้วยไข่ปลาบินปรุงรสที่แตกในปากเวลาเคี้ยวโรยหน้าด้วยชีสและผักชีพาสลีย์เพิ่มความสวยงาม จานต่อไปเป็นเมนูเส้นผัดสไตล์ไทยๆอย่าง "ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล" เป็นเส้นใหญ่ผัดกับไข่ใส่ซีอิ๊วคั่วให้หอมกลิ่นไหม้กระทะตัดรสหวานกลมกล่อมใส่เครื่องทะเลลงไปทั้งปลาหมึกกระดอง/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และลูกชิ้นปลา เพิ่มรสชาติด้วยเองด้วยพริกป่น/น้ำตาลและมะนาวที่วางมาให้ข้างๆจานได้ตามใจถ้าไม่ติดว่าร้านนี้เป็นซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์รับรองว่าต้องสั่งเบิ้ลอย่างแน่นอนครับ เมนูสุดท้ายนั่นก็คือ "ผัดไทยกุ้งสด" เป็นเส้นจันทร์เหนียวนุ่มผัดกับซอสผัดไทยรสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมสูตรเฉพาะของที่ร้านใส่ผัก/ไข่ไก่และกุ้งสดลงไปคลุกออกมาเป็นเมนูผัดไทย ทานกับต้นกุยฉ่ายถั่วงอกและปรุงรสเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองทั้งพริกป่น/น้ำตาลและมะนาวสดที่เสิร์ฟมาในจานเดียวกันก็อร่อยอีกแล้ว มากับเพื่อนหลายๆคนแล้วแบ่งกันทานน่าจะดีดว่ามากันเป็นคู่ สุดท้ายเป็นขนมหวานเลือกได้คนละ 1 จากทั้งหมด 3 รายการก็คือ วุ้นมะพร้าว/ลูกตาลลอยแก้ว/สละลอยแก้ว วันนี้เรามา 2 คนก็เลือกเป็นวุ้นมะพร้าวใส่เนื้อมะพร้าวรสหวานอ่อนๆทานง่ายและสละลอยแก้วที่แกะเอาแต่เนื้อรสเปรี้ยวทานกับน้ำเชื่อมหวานหอมสดชื่น นอกจากนี้ก็มีไอศครีมไปตักที่ตู้ได้เลยจนกว่าจะอิ่มครับผม
มื้อนี้ผมมาทานกับแฟนด้วยกัน 2 คน ค่าบุฟเฟ่ต์ทั้งหมด 1,538 บ. (รวมกับ Service Charge 10% เรียบร้อยแล้ว) ส่วนตัวถือว่าคุ้มค่าถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับทั้งซีฟู้ดสดคุณภาพดี,รสชาติอาหารและน้ำจิ้มแซ่บโดนใจ,ความหลากหลายของเมนูที่ร้านนำเอามาเสิร์ฟรวมถึงสถานที่ตั้งร้านการตกแต่งสวยงามอยู่ใจกลางเมืองแถมเดินทางสะดวก อาจมีความไม่สมบูรณ์แบบบ้างในบางจุดเล็กน้อยๆพอมองข้ามกันได้ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดที่อร่อยราคาดีและเข้าถึงได้ง่ายรับคะแนนไป 5 ดาวเต็มเลยครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 5 เลขที่ 388 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. 10330
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 080-966-6006 และ 096-884-5410
Facebook : www.facebook.com/BURN.WHALE
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments