วันนี้ผมได้รับเชิญจาก PR ของโรงแรม Dream สุขุมวิทซอย 15 ให้เข้ามารีวิวที่ห้องอาหาร Flava ตอนนี้เขากำลังจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม ทานทุกอย่างทั้งห้องอาหาร โดยมีให้เลือกทานมากกว่า 70 เมนู นั่งสั่งอาหารที่โต๊ะทานได้แบบ A La Carte ตลอด 2 ชม.เต็ม ในราคาเพียงคนละ 1,299++บาท พิเศษมา 2 จ่าย 1 (ตกคนละ 830 บาทสุทธิ) ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มทุกชนิด มีทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทย 4 ภาคหลายเมนู ใช้แต่วัตถุดิบชั้นดีระดับพรีเมี่ยม โดยบุฟเฟ่ต์ที่นี่จัดทุกวันตั้งแต่ 11.00 น.- 22.30 น. ไม่มีวันหยุด การเดินทางมาก็ง่ายๆ ลง BTS สถานีอโศก เดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 15 โรงแรมจะอยู่กลางซอยพอดี หากพบตึกสีขาวหน้าตาแบบนี้แสดงว่าถึงแล้วครับ
เดินเข้ามาใน Lobby ตอนแรกพอได้ฟังชื่อโรงแรมนึกว่าเป็นโรงแรมที่มีความ Life Style คล้ายกับ Ibis แต่มีความเป็นไทยมากกว่าที่คิด เหมือนเป็นการเล่าเรื่องใหม่ที่ดูมีความหรูหรา Modern มากขึ้น เดินเข้ามาเหนื่อยๆมีน้ำตะไคร้เย็นๆ รสหวานอ่อนๆ ให้แขกทุกคนได้ดื่มเพิ่มความสดชื่นก่อนเข้าพักด้วย เราขึ้นไปที่ห้องอาหารชั้น 2 กันครับ
ชั้น 2 เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร Flava ที่ดูมีความเป็น Life Style สีสันสดใสทั้งตัวห้องอาหาร/เฟอร์นิเจอร์/การประดับตกแต่งตามมุมต่างๆ ไม่เหมือนกับชั้นแรกที่ดูมีความเป็นไทยสมัยใหม่มากกว่า แขกชาวต่างชาติลงมานั่งดื่ม/นั่งทำงานในห้องอาหารนี้ด้วย บรรยากาศเหมาะแก่การสั่งเครื่องดื่มสีสวยๆถ่ายรูปลง IG สุดๆ แต่วันนี้เราจะมาตะลุยกินกันแบบจุกๆ พิเศษ PR อนุญาตให้เราสั่งเครื่องดื่มได้ไม่อั้นด้วย เลือกมุมที่นั่งและเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่ามีเมนูอาหารคาว/ของหวานให้สั่งทานมากกว่า 70 เมนู โดยเมนูถูกแบ่งแยกเป็น 2 เล่ม เล่มที่เป็นรูปแนวตั้งคือเมนูเครื่องดื่ม (ไม่รวมในบุฟเฟ่ต์) ส่วนอีกเล่มที่เป็นรูปภาพแนวนอนคือสั่งได้ทั้งหมดทั้ง Soup / Salad / Tapas / Pizza / Pasta / Burger / Sandwich / Steak / อาหารไทยเรียกน้ำย่อย / แกงไทย / ยำสไตล์ไทย / เมนูข้าวผัด / เมนูเส้น / เมนูไทยยอดนิยม / ชุดอาหารเชียงใหม่ / ชุดอาหารอยุธยา/ชุดอาหารขอนแก่น / ชุดเมนูแนะนำโดยเชฟ / และของหวาน มีให้เลือกมากกว่า 12 หน้า สั่งอาหารมาชิมกันเลยครับ
เมนูแรกคือซุปข้าวโพดรสหวานเค็มกลมกล่อม ยิ่งทานกับขนมปังกระเทียมกรอบๆหอมๆยิ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ต่อกันด้วยปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปูนิ่มทอดกรอบ 2 ตัวใหญ่ ราดด้วยซอสผัดผงกะหรี่ ถ้าทานเปล่าๆแล้วจะรู้สึกเค็มเกินไป เหมาะกับการนำไปทานกับข้าวสวยมากกว่า ถ้าชิมแยกกันปูนิ่มทอดกรอบรสเค็มกำลังดีเหมาะแก่การทานเล่น /ซอสผัดผงกะหรี่ก็มีความหวานเค็มกำลังดี แต่พอผสมกันกลายเป็น เค็ม+เค็ม ตรงจุดนี้ผมแจ้งทาง PR ไปแล้วครับ
จานต่อมาหน้าตาดูดีแต่รสชาติสุดคุ้นเคย หอยนางรมเกาหลีราดน้ำจิ้มซีฟู้ด/น้ำพริกเผา/หอมแดงเจียว/ประดับด้วยใบผักชีลาว หอยนางรมเนื้อหวานไหลลงคอ เปรี้ยว/หวาน/เผ็ดจี๊ด ได้ความกรอบหวานของหอมเจียว และกลิ่นผักชีลาวทำให้รู้สึกสดชื่นมากกว่ายอดกระถิน อร่อยลงตัวดีครับ ซุปล็อบสเตอร์บิสค์ หรือซุปเปลือกกุ้งล็อบสเตอร์บดผสมครีม รสชาติหอม/เค็มกำลังดี ทานคู่กับเนื้อกุ้งกรอบๆ/ข้าวเกรียบ/ขนมปังซัลซ่ามะเขือเทศอมเปรี้ยว ก่อนเสิร์ฟ พนักงานเทซุปจากกาสีขาวลงไปในจานที่ใส่เครื่องต่างๆเอาไว้ อร่อยลงตัวดี แต่ต้องรีบทานกันหน่อยนะครับ
เบอร์เกอร์ปลากระพงชิ้นโตราดทาร์ทาร์ซอส ขนมปังเบอร์เกอร์เนื้อนุ่ม ตรงกลางสอดไส้ด้วยแยมหัวหอม/ผักสด/เนื้อปลากระพงชุบแป้งทอด/ราดซอสทาร์ทาร์ที่ผสมแตงกวาดองและผักชีลาวหอมๆ ได้ทั้งความนุ่มของขนมปัง ,กรอบฉ่ำของปลา,หวานแยมหัวหอม,เปรี้ยวมันและหอมสมุนไพรซอสทาร์ทาร์ ลงตัวดีครับ เนื้อย่างจิ้มแจ่ว เสิร์ฟกับข้าวเหนียวร้อนๆ เนื้อวัวหมักนุ่มหอมสมุนไพรหมักสไตล์ไทย ย่างมาแบบ Medium Rare กรอบนอกเนื้อฉ่ำใน ทานกับน้ำจิ้มแจ่วรสหวานนำ หอมกลิ่นข้าวคั่ว/น้ำมะขามเปียก/เครื่องสมุนไพรไทยสดๆ อร่อยประทับใจมากครับ
ต่อมาเป็นอาหารชุดใหญ่ ชุดอาหารแนะนำของเชฟประกอบด้วยอาหารทั้งหมด 5 เมนูคือ แกงแดงสับปะรดเนื้อเซอร์ลอยย่าง มีความคล้ายกับแกงเผ็ดเป็ดย่างแต่เปลี่ยนเป็นเนื้อเซอร์ลอยด์ย่างถ่านแบบ Medium Rare หมักนุ่มมาเหมือนกับเนื้อย่างจิ้มแจ่วจานแรก ทานกับแกงแดงรสชาติหวานอมเปรี้ยวเข้ากันได้ดีครับ ต่อมาคือเมนูกุ้งพันฟองเต้าหู้ กุ้งเด้งปรุงรสเหมือนกับไส้ติ่มซำห่อด้วยฟองเต้าหูทอดกรอบ ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยหวานอมเปรี้ยว อันนี้ก็ดีนะ ต่อมาคือ ปลาหิมะนึ่งซอสมะขาม แต่เสิร์ฟจริงเหมือนเอาไปชุบแป้งทอด ราดซอสมะขามแบบไข่ลูกเขย เพิ่มความหอมด้วยหอมเจียว ปลาหิมะเนื้อมันเข้ากันได้ดีกับซอสหวานเปรี้ยวและแป้งกรอบๆ ดีงามอีกแล้ว สุดท้ายเป็นซุปไว้ซดร้อนๆ กระดูกหมูต้มผักกาดดอง ซุปกระดูหมูต้มเปื่อยๆ กับผักกาดดองกรอบอมเปรี้ยวนิด ซดแล้วช่วยล้างปาก ReStart ทานเมนูต่อไปได้อีก มาพร้อมกับข้าวสวยหอมมะลิเม็ดนุ่มหอม ถ้าไม่ทานข้าวบอกพนักงานก่อนสั่งได้ครับ
เมนูต่อมาเป็นแกงไทยโบราณอย่างแกงรัญจวนเนื้อตุ๋น เนื้อตุ๋นติดเอ็นต้มจนนุ่ม ใส่ในแกงรัญจวนรสเปรี้ยวนำ/เค็มอ่อนๆ/หอมกะปิและเครื่องสมุนไพรรสเผ็ดอ่อนๆ ซดแล้วรู้สึกสดชื่นสะใจมากครับ ทานแกงไปแล้วข้าวหมดเลยสั่งเมนูข้าวผัดน้ำพริกกะปิลงเรือ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำพริกลงเรือหมูสับเข้มข้น/หมูหวาน/ไข่เค็ม/ผักสด ดูหน้าตาน่าจะจืด แต่รสชาติเข้มข้นกว่าที่คิด ใครเบื่อเมนูข้าวสวยหรือข้าวผัดแบบปกติแนะนำให้สั่งเป็นเมนูนี้แทนครับ สเต็กปลาทูน่า เนื้อทูน่าส่วน Akami ย่างสุกนอกชมพูด้านใน ทานคู่กับซัลซ่ามะเขือเทศรสเปรี้ยว / ผักผัดเนยและมันบดหอมกลิ่นเนยเนื้อละเอียด ส่วนตัวว่ารสชาติจานนี้ค่อนข้างอ่อนไปหน่อยเติมเกลือ/พริกไทยอีกนิด จะรสชาติดีขึ้นเลยครับ
เมนูอาหารชุดสุดท้าย เริ่มอิ่มแล้วแต่ก็อยากลองทานอีกหลายเมนู สเต็กเนื้อส่วนเซอร์ลอยด์เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นถ่าน สุกแบบ Medium Rare ทานคู่กับซอสไวน์แดงหอมๆ (หรือจะเปลี่ยนเป็นซอสพริกไทยดำก็ได้) เสิร์ฟพร้อมกับมันบดและมันฝรั่งทอดแบบวาฟเฟิลที่กรอบนานดีมาก คลุกผงปรุงรสบาร์บีคิวกลมกล่อมทานได้เพลินๆ เมนูถัดมาเป็นพาสต้าพริกแห้งกระเทียมอิตาเลี่ยนเบคอน เส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับน้ำมันมะกอก/พริกแห้ง/กระเทียมและเบคอนรสเค็มกลมกล่อม เผ็ดจัดจ้านทานง่ายดีครับ อาหารชุดสุดท้ายเห็นน่าทานดีเลยสั่งมาถึงแม้จะอิ่มแล้ว ชุดเชียงใหม่ประกอบด้วย ลาบคั่วไก่รสชาติจัดจ้านหอมกลิ่นมะแขว่นแต่เผ็ดน้อย แกงฮังเลหมูเนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นขิงสดชื่น น้ำพริกอ่องไก่รสเปรี้ยวเผ็ดอ่อนๆ คล้ายซอสสปาเก็ตตี้ทานง่ายๆ สุดท้ายคือไส้อั่วที่อร่อยมาก เนื้อเยอะมันน้อย รสเผ็ดอ่อนๆ ถึงเครื่องสมุนไพรสุดๆ รสชาติถึงเครื่องตามสูตรชาวเหนือแต่ไม่เผ็ด ทุกคนท่านได้ง่ายๆครับผม
อิ่มแล้วนะครับ แต่ยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะเอาไว้สำหรับเมนูของหวาน สั่งมาทั้งเมนูช๊อกโกแลตฟองดอง เสิร์ฟพร้อมไอศครีมวนิลา เค้กช็อกโกแลตอุ่นไปทานกับไอศครีมวนิลาเย็นๆ เพิ่มความกรอบด้วยเวเฟอร์ช๊อกโกแลตและถั่วลิสง ตัดความเลี่ยนด้วยสตรอเบอรี่สด เข้ากันได้ดี ต่อมาคือ ขนมปังพุดดิ้งซอสบลูเบอร์รี่ ขนมปังพุดดิ้งนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเนยและวนิลา ตัดด้วยความหวานอมเปรี้ยวของซอสบลูเบอรี่เป็นเม็ดๆ อร่อยดีครับ ตามมาด้วยข้าวเหนียวมะม่วงสุกหวานๆ เสิร์ฟมาพร้อมข้าวเหนียวมูนหวานหอมกะทิและข้าวเหนียวมูนใบเตย ก่อนทานก็ราดด้วยกะทิสดรสเค็มมันเพิ่มความกลมกล่อม สุดท้ายคือไอศครีมมะพร้าวอ่อนที่เสิร์ฟในลูกมะพร้าวรสเข้มข้น เย็นสดชื่นสุดๆครับ
มื้อนี้อย่างที่บอกไปแล้วว่าเครื่องดื่มไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ แต่เราสามารถสั่งเครื่องดื่มในเมนู A La Carte มาทานได้วันนี้เราสั่งมา 4 เมนูคือ 1.Virgin Lychee Mojito ใบสาระแหน่สดบดใส่มะนาว / สไปร์ท / ใส่เนื้อลิ้นจี่และน้ำลิ้นจี่กระป๋อง รสหวานเปรี้ยวสดชื่น ราคาแก้วละ 150 บาท 2.Fruit Punch น้ำส้ม/น้ำมะนาว/น้ำสับปะรดผสมไซรัปสีแดง รสชาติหวานหอมกลิ่นผลไม้รวม ราคาแก้วละ 150 บาท 3.สมูทตี้มะพร้าว รสหวานอ่อนๆหอมมัน กลิ่นมะพร้าวชัดเจน แต่เนื้อมะพร้าวปั่นไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ ราคาแก้วละ 180 บาท สุดท้ายคือ 4.สมูทตี้สตรอเบอรี่ นมปั่นรสสตรอเบอรี่เปรี้ยวหวานกำลังดี มีการเล่นสีโดยใส่ซอสสตรอเบอรี่ลงไปในแก้วได้สีแดงสลับสีชมพูดูสดใส ราคาแก้วละ 180 บาท โดยราคาเมนูเครื่องดื่มทั้งหมดนี้ไม่รวม Vat. และ Service Charge อีก 17% นะครับผม
โดยรวมอาหาร/การบริการ/วัตถุดิบที่ใช้ถือว่าดีสมราคาที่ตกคนละ 830 ฿ ถ้าทานเต็มที่คนละ4 - 6 เมนู และเลือกสั่งแต่เมนูที่มีราคาแพงๆ ก็ถือว่าคุ้มอยู่ รสชาติอาหารประมาณ 90% ถือว่าอร่อยรสชาติดี แต่ติดไปทางหวานนิดๆ โดยปกติผมเป็นคนชอบทานรสติดหวานอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่ชอบอาจจะต้องพิจารณาในจุดนี้ก่อนมา บุฟเฟ่ต์ที่นี่นอกจากจะเหมาะกับคนที่อยากทานอาหารหลากหลายในราคาสุดคุ้มแล้ว (เพราะมีให้เลือกมากกว่า 70 เมนู) ก็ยังเหมาะสำหรับการพาเพื่อนๆชาวต่างชาติมาทานด้วยกันที่นี่ เพราะเขารวบรวมอาหารไทยเมนูเด็ดเอาไว้ให้ทานทั้ง 4 ภาคทั่วไทย รสชาติแต่ละจานนั้นเข้มข้นถึงเครื่องสมุนไพรแต่ไม่เผ็ดทุกเมนู หากเพื่อนของคุณไม่ชอบอาหารไทยก็มีเมนูอาหารฝรั่งให้ทานอีกเพียบ เอาคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไป 5 ดาวเต็มเลยครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 10 ซอยสุขุมวิท 15 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
บุฟเฟ่ต์จัดทุกวันตั้งแต่ 11.00 - 22.30 น. โทร.02-254-8500
Facebook : https://www.facebook.com/Dreambkk/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments