top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิว"James Boulangerie"ร้านคาเฟ่ขนมสไตล์ฝรั่งเศสที่มีคิวต่อซื้อครัวซองต์อบสดยาวที่สุดในย่านตลิ่งชัน

อัปเดตเมื่อ 13 ก.ย. 2566



ร้าน James Boulangerie เป็นร้านขายขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสของ"เชฟเจมส์-พชร เถกิงเกียรติ"หนึ่งในผู้ชนะรายการ Iron Chef Thailand โดยเมนูเด็ดของที่ร้านนี้คือครัวซองต์อบสดใหม่ที่มีคิวต่อซื้อยาวมากน่าจะยาวที่สุดในขณะนี้เพราะก่อนไปออกรายการ Sauce บน Youtube ก็มีฐานลูกค้าอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว หลังเทปนี้ออกมาทำให้ต้องรอนานยิ่งกว่าเก่า โดยผมไปรอคิวตั้งแต่เวลา 08.30 ได้คิวที่ 5 บัตรคิวมีให้แค่ถึง 200 คิวจำกัดซื้อแค่คนละ 5 ชิ้น เท่ากับว่า 1 วันที่ร้านนี้ขายครัวซองต์ไปมากกว่า 1,000 ชิ้น หากมาไม่ทันก็ยังมีขนมอื่นๆ/ชา/กาแฟสดให้บริการด้วย แต่ถ้าขนมขายหมดทั้งร้านแล้วเขาก็ปิดก่อนเวลาทำการปกติทันที ตัวร้านอยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 วิธีการเดินทางมาแนะนำว่าให้มาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง MRT สถานีไฟฉายแล้วเรียกรถเข้ามาตามแผนที่ใน Google Maps อีกประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะพบกับร้านขนมป้ายสีขาวสัญลักษณ์รูปม้าและมีคนจอดรถหน้าร้านเยอะๆแบบนี้แสดงว่ามาถึงร้านแล้วนะครับ ส่วนความเป็นมาอื่นๆของเชฟ-ตัวร้านไปจนถึงกรรมวิธีการทำครัวซองต์เราจะไม่ลงรายละเอียดลึกให้เข้าไปดูวีดีโอนี้แทนนะครับ https://bit.ly/35rB5x4

หน้าร้านเป็นสไตล์ Loft Modern อาคารปูนเปลือยสีสว่างตัดด้วยขอบหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมคางหมูดูไม่เหมือนใคร เข้ามาด้านในจะเก็บบรรยากาศอื่นๆก็ไม่ได้แล้วเพราะมีคนเยอะมากๆและปัจจุบันก็ไม่ได้อนุญาตให้นั่งทานที่ร้านอีกต่อไป ต้องสั่งใส่กล่องกลับไปทานที่บ้านเท่านั้นเพื่อให้คิวสามารถนำเนินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยครัวซองต์มีให้สั่งจำกัดเพียงแค่คนละ 5 ชิ้นเท่านั้นก็เท่ากับว่า 1 คนจะได้ทานครัวซองต์ทุกหน้าของที่ร้านอย่างละ 1 ชิ้น บัตรคิว 1 ใบสามารถใช้ได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้นไม่สามารถมาด้วยกันแล้วขอใช้สิทธิ์เพิ่ม ส่วนขนมหวานกับเครื่องดื่มสามารถสั่งเพิ่มได้ไม่จำกัดจำนวนแต่ต้องนำออกไปทานนอกร้านทั้งหมด วันนี้เราก็ได้บัตรคิวมา 2 ใบจึงมีสิทธิ์ซื้อมาชิม 2 กล่องจะอร่อยสมกับการฝืนยกสังขารออกจากที่นอนเพื่อไปรอต่อคิวซื้อแต่เช้าหรือไม่เดี๋ยวเรามาชิมไปด้วยกันเลยครับผม

เปิดกล่องออกมาเจอครัวซองต์ชิ้นใหญ่อัดแน่นเรามาเริ่มชิมกันทีละชิ้นคือ "ครัวซองต์สูตรต้นตำรับ" ราคาชิ้นนี้ 85 บาท เป็นครัวซองต์อบชิ้นใหญ่แป้งกรอบที่มีช่องโพรงอากาศด้านในฟูมากกว่าครัวซองต์ร้านอื่นไล่ระดับเป็นชั้นๆโดยชั้นนอกสุดมีความกรุบกรอบสีเหลืองสวยชั้นแป้งด้านในค่อยๆนุ่มตรงแกนกลางมีความเคี้ยวหนึบให้ 3 สัมผัสในชิ้นเดียวกัน หอมกลิ่นเนยสดรสเค็มอ่อนๆโดยเนยที่ใช้ถ้าคุณเคยทำเบเกอรี่มาก่อนจะรู้เลยว่าเขาใช้ของที่คุณภาพสูงจริงไม่ใช่เนยแต่งกลิ่นหรือมาการีนถูกๆที่มีกลิ่นหอมรุนแรง เพราะเนยธรรมชาติเกรดสูงจะมีกลิ่นหอมอ่อนคล้ายนมสดมันอร่อยลงตัว ส่วนเราคาดหวังว่าจะพิเศษกว่านี้แต่สุดท้ายก็คือครัวซองต์ที่ดีกว่าร้านอื่นในขอบเขตที่ควรจะเป็น

ชิ้นต่อมาไม่ได้คาดหวังแต่อร่อยเกินคาดคือ "อัลมอนด์ครัวซองต์" ราคาชิ้นละ 120 บาท ตอนแรกคิดว่ารสชาติคงไม่ต่างจากชิ้นแรกมากนักแต่บอกเลยว่าเรานั้นคิดผิดเพราะมันกรอบสนั่น ชั้นของแป้งไม่ได้ฟูมากจึงได้ความแน่นสู้ฟันหวานน้ำตาลไอซิ่งผสมกับแอลมอนด์อบกรอบๆ ที่เซอร์ไพรส์สุดคือด้านในเข้าใส่แอลมอนด์บดผัดกับเนยแทรกไว้ให้เป็นไส้ตรงแกนกลาง ได้ทั้งความหอม/หวาน/มัน/กรอบทานง่ายชิ้นไม่ใหญ่เกินไปจนต้องอ้าปากกว้างๆ ไม่มีไส้ไหลเลอะเทอะแบบเหมือนครัวซองต์ชิ้นอื่นๆในร้าน ส่วนตัวถ้าแนะนำว่าถ้ามีโอกาสมาร้านให้สั่งเมนูนี้ก่อนเป็นอันดับ 1 เลยครับ ชิ้นต่อไปคือ "ครัวซองต์นูเทลล่า" ราคา 150 บาท ลักษณะครัวซองต์พื้นฐานคล้ายกับชิ้นแรกแต่สอดไส้ด้วยนูเทลล่าเข้มข้นไว้ที่แกนกลางตรงแป้งหนึบๆกำลังดี แนะนำว่าเวลาทานให้ตัดแนวขวางทานคำใหญ่จะได้แป้งกับไส้ตัดกันรสชาติหวาน/มันกรุบกรอบกำลังดี ไม่งั้นจะหวาน-จืดเป็นจุดทานค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแต่อร่อยดีครับ

2 เมนูสุดท้ายนี้คาดว่าน่าจะทานยากที่สุดแล้วในวันนี้เริ่มจาก "ช็อกโกแลตครัวซองค์" ราคา 150 บาท เป็นครัวซองต์อบกรอบสอดไส้ช็อกโกแลตและเคลือบด้วยช็อกโกแลตอีกชั้น จากวีดีโอในรายการ Sauce ช็อกโกแลตที่ร้านใช้นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส โดยช็อกโกแลตเกรดนี้จะมีความเข้มข้นของ Coco Butter และกลิ่นหอมเบอรี่สูงกว่าเกรดปกติ(ไม่ผสมไขมันปาล์มแบบของราคาถูกจึงละลายง่ายกว่าปกติ) ทำให้เวลาทานช็อกโกแลตไหลย้อยแต่ก็ตัดปัญหาได้ด้วยการนำไปแช่เย็นก่อนนำออกมาทาน คำแรกที่ได้รับรสชาติก่อนเลยคือหวานกำลังดีหอมขมโกโก้อมเปรี้ยวนิดๆ (ถ้าใครไม่เคยทานช็อกโกแลตแบบนี้มาก่อนอาจจะไม่คุ้นนัก) เข้มข้นทั้งด้านนอกและในเข้ากับความเค็มกรุบกรอบของครัวซองต์ได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวว่าให้ไส้เยอะคุ้มราคากว่าไส้นูเทลล่าแต่ทานยากกว่าเยอะครับผม ชิ้นต่อไปคือ"วนิลาคาราเมลแมคคาดิเมียครัวซองต์" ราคาแพงสุดในร้าน 230 บาท พื้นฐานเป็นครัวซองต์ต้นตำรับราดด้วยวนิลาคาราเมลแมคคาดิเมียที่ดูเหมือนจะหวานจับใจ แต่พอทานแล้วหวานอ่อนๆเข้ากับแมคคาดิเมียคั่วเป็นอย่างดี ได้ทั้งความกรอบ/มัน/หวานหอมครัวซองต์+ถั่วเม็ดใหญ่ได้เป็นอย่างดี ให้ปริมาณถั่วแบบสุ่มต้องเลือกหน่อยครับ

สุดท้ายไม่ใช่ครัวซองต์แต่ก็หยิบติดมือมาชิมด้วยคือ "วนิลาสโคน" ราคาชิ้นละ 50 บาท เป็นสโคนที่มีเนื้อเบาฟูคล้ายกับคัฟเค้กด้านนอกกรุบกรอบ ทานคู่กับเนยสดเหลวที่ทางร้านน่าจะตีเองจากนมสดเต็มมันเนยและซอสสตรอเบอรี่สับหยาบได้เนื้อนิดๆรสชาติหวานอมเปรี้ยว นำมาประกอบกันเป็นคำได้ทั้งความอร่อยหอมมันลงตัวในคำเดียว

วันนี้เราสั่งมา 2 กล่องราคากล่องละ 735 บาท อีกกล่องเพิ่มสโคนราคา 785 บาท ส่วนตัวแล้วก็นับว่าเป็นครัวซองต์ที่อร่อยและใช้วัตถุดิบคุณภาพดีสมกับราคาที่ตั้ง แต่ถามว่าสมควรไปต่อคิวรอมั้ยในบ้านผมแตกออกเป็น 2 เสียง ฝั่งนึงบอกว่าอร่อยคุ้มสมที่ตื่นเช้าเพื่อไปรอคิว แต่ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นคนที่ชอบของหวานหรือเบเกอรี่อบมากนักเลยรู้สึกว่าเฉยๆแต่ก็นับว่าได้ลองแล้วถือว่าแตกต่างจากร้านอื่นที่เคยชิมมาพอสมควร วันนี้"James Boulangerie" ก็ได้รับคะแนนความอร่อยคุ้มไป 4 ดาวครับ 🌟🌟🌟🌟


พิกัด : เลขที่ 172 ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170

เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. โทร. 064-958-9588

Facebook : https://www.facebook.com/Jamesboulangerie/

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 69,306 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page