เนื่องในโอกาสใกล้เข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยนัดกับกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมานั่งกินดื่มฉลองเล็กๆก่อนแยกย้ายกันไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนากับครอบครัว ซึ่งตัวผมนั้นมีหน้าที่ค้นหาร้านอาหารอร่อยเด็ดหรือดูน่าสนใจจนมาพบ "Koya Izakaya" (โคย่า อิซากายะ) เพิ่งเปิดไม่นานนักแต่มีลูกค้าเขียนรีวิวเยอะและคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 4.8 เต็ม 5 ดาวนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดาช่วยกระตุ้นไฟความอยากรีวิวให้โหมหนักยิ่งขึ้น วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงปักหมุดชื่อแล้วขับตามระบบนำทางของแผนที่บนมือถือจอดรถตามแนวยาวตรงริมถนนวัดอินทราวาสทั้งสองฝั่งฟรีตลอดทั้งวัน ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะลง MRT สถานีแยกไฟฉายเรียกรถแท็กซี่/มอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ตัดใหม่มุ่งสู่ถนนราชพฤกษ์อีกประมาณ 4.5 กิโลเมตรก็จะถึงเป้าหมายปลายทาง จุดสังเกตคือตึกขนาดสองชั้นแขวนภาพวาดมือด้วยลายพู่กันรูปสัตว์เทพตามตำนานของประเทศญี่ปุ่นเรียงยาวตลอดแนวเห็นเด่นชัดจากระยะไกล โดยวันนี้ต้องรีบมาถึงตั้งแต่เปิดใหม่ๆเพราะตอนดึกลูกค้าค่อนข้างเยอะจะได้จองโต๊ะพร้อมเก็บบรรยากาศแบบไม่ติดใบหน้าคนอื่นเริ่มต้นจากด้านนอกระเบียงติดตั้งต้นเมเปิ้ลสีส้มจำลองให้ความรู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ร่วงรับลมเย็นธรรมชาติชวนนั่งสบายไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปข้างในกันเลยครับ
การตกแต่งภายในร้าน "Koya Izakaya" เกือบทั้งหมดเน้นสไตล์ Japan Street เป็นแกนหลักแต่ผสมความ Retro ย้อนยุคลงไปเล็กน้อยให้อารมณ์เหมือนได้นั่งกินดื่มสุดชิลอยู่ริมถนน ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย บรรยากาศโดยรวมถือว่าค่อนข้างมืดสลัวใช้แหล่งกำเนิดแสงเพียงบานกระจกขนาดใหญ่/โคมไฟแขวนญี่ปุ่นแบบโบราณ/ป้ายอักษรนีออนหลากหลายสีสันสวยงาม พร้อมติดตั้งต้นซากุระจำลองกำลังออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งคล้ายฤดูใบไม้ผลิกับแปะแผ่นโปสเตอร์โฆษณาทั้งอาหาร/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์/การ์ตูนอนิเมะ-มังงะเรื่องต่างๆซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างลงตัวชวนให้เราอยากหยิบกล้องหรือมือถือออกมาถ่ายรูปอวดเหล่าเพื่อนฝูงลงโซเชียลเกือบทุกมุม สำหรับเฟอร์นิเจอร์ถึงแม้จะบอกว่าเป็นร้านอิซากายะแต่ยังคงความหรูหราแบบภัตตาคารใจกลางกรุงเทพฯเริ่มต้นด้วยโต๊ะใช้ไม้แท้เนื้อแข็งขัดเรียบเคลือบน้ำยาเงาอย่างดี/เก้าอี้ขึ้นรูปจากโครงเหล็กบุฟองน้ำเย็บหนังสีดำคุณภาพสูงปกปิดมิดชิดส่วนลังเบียร์พลาสติกจับซ้อนกันแทนที่นั่งเปลี่ยนสู่กล่องไม้วางเบาะนุ่มแข็งแรงทนทานกว่าเดิม (สามารถรองรับลูกค้าจำนวนรวมกว่า 50 ท่าน) ถ้ามาฟินแค่คนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงาเราแนะนำให้เลือกตรงเคาน์เตอร์ยาวเพื่อรับชมหัวหน้าเชฟจัดเตรียมเมนูแต่ละอย่างพร้อมพูดคุยกันเพลินๆสไตล์โอมากาเสะครับ
จัดการเลือกโต๊ะที่อยากนั่งให้เรียบร้อยจากนั้นน้องพนักงานจะนำเล่มเมนูขนาดใหญ่มาวางไว้ตรงด้านหน้าพร้อมแนะนำโปรโมชั่นต่างๆประจำเดือน เนื่องจากรายการอาหารมีค่อนข้างเยอะและแสงไฟร้านค่อนข้างสลัวเลยทักเข้าไปหาแอดมินเพจเพื่อขอเป็นฉบับออนไลน์แปะลงบทความแทนสามารถรับชมในลิงก์นี้ > https://bit.ly/3JfkMZP < เริ่มต้นด้วยหมวดซาชิมิราคา 110-1,090 บาท / จานเรียกน้ำย่อยสไตล์ญี่ปุ่นราคา 79-160 บาท / วัตถุดิบลนไฟย่างยากิราคา 110-890 บาท / สลัดผัก-ยำแบบทาทากิราคา 199-345 บาท / ชุบแป้งทอดกรอบ-เทมปุระราคา 79-250 บาท / ซูชิโรล-มากิหลากหน้าราคา 79-340 บาท / ข้าวหน้าหรือดงบุริราคา 250-345 บาท / เสียบไม้ย่างคูชิยากิราคา 35-108 บาท / ซูชินิกิริเสิร์ฟเป็นคำราคา 35-159 บาท / หม้อไฟนาเบะราคา 280-315 บาท / เมนูจานเดียวราคา 145-250 บาท / ข้าวกับซุปมิโซะราคา 35-55 บาท นอกนั้นเป็นรายการวัตถุดิบที่ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจนถึงขนมหวานอัปเดตทุกเดือน ตัดภาพมาบนโต๊ะได้วางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเอาไว้ครบอย่างถ้วนทั้งจานส่วนตัว,ตะเกียบไม้ฉีกใช้แล้วทิ้ง,ขวดกาบรรจุโชยุ,ถ้วยใส่น้ำจิ้ม,พริกป่นเจ็ดสีบดละเอียดและกระดาษทิชชู่ตามจำนวนสมาชิกถ้าหมดหรือขาดเหลืออะไรก็บอกไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใดครับผม
เริ่มต้นกันด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยชวนเคี้ยวเพลินๆประจำร้านอิซากายะแบบญี่ปุ่นได้แก่ "Ehire" ราคา 160 บาท หรือมีอีกชื่อว่า エイヒレ (เอฮิเระ) เป็นส่วนครีบของกระเบนสายพันธุ์ カンギエイ ตระกูลเดียวกับโรนันมาตากแห้งปรุงรสชาติหวานนำเค็มกลมกล่อมคล้ายริวกิวของไทยแต่เหนียวหนึบเข้มข้นกว่า นำย่างบนถ่านไฟอ่อนๆจนแห้งสนิทหั่นชิ้นขนาดกำลังพอดีคำทานทันทีหรือจิ้มเรียลมายองเนสโรยพริกป่น 7 สีเปรี้ยวมันเผ็ดฉุนขึ้นจมูกอีกหน่อยยิ่งอร่อยเด็ดโดนใจเหมาะสำหรับแบ่งฟินกับเพื่อนหลายๆคนช่วยแบ่งเบาอาการเมื่อยขากรรไกร จานต่อไปก็คือ "Geso Karaage" ราคา 110 บาท ใช้ปลายหนวดปลาหมึกยักษ์ たこ (ทาโกะ) ชุบแป้งทอดกรอบสไตล์คาราอาเกะร้อนสีเหลืองทองสวยงามเพียงบีบมะนาวสดลงไปก่อนคีบเข้าปากช่วยตัดเลี่ยนไขมันและช่วยกระตุ้นความอยากกินอาหารมากยิ่งขึ้น รายการนี้เห็นหน้าตาในเล่มเมนูดูอลังการงานสร้างเลยสั่ง "Ebi Tempura" เสิร์ฟ 5 ชิ้นราคา 225 บาท กุ้งแชบ๊วยเนื้อแน่นเด้งสู้ฟันจับเหยียดตัวตรงชุบแป้งบางๆวางบนแพเทมปุระขนาดใหญ่ทอดให้ผนึกรวมกลายเป็นชิ้นเดียวกันวางจัดเรียงซ้อนบนแผ่นหินสีดำสุดหรูหรา จิ้มซอสหวานเค็มหอมน้ำมันงาเพิ่มหัวไชเท้า-ขิงขูดฝอยอีกหน่อยช่วยเคลือบแทรกซึมทุกอณูเข้มข้นกำลังดีโดยไม่ต้องยกซดตามเพื่อให้ได้รับรสชาติเหมือนร้านก่อนหน้าที่เคยชิมครับ
บำรุงร่างกายให้รู้สึกฟิตปึ๋งปั๋งเตรียมต้อนรับปีใหม่นี้กันด้วยเมนู "Nama Kaki" หรือหอยนางรมญี่ปุ่นสดแท้นำเข้าจากเกาะฮอกไกโดราคาตัวละ 130 บาท ถ้าสั่งเป็นชุด 3 ตัว พิเศษเพียง 315 บาท (ประหยัด 75 บาท) กะเทาะเปลือกเผยให้เห็นก้อนเนื้อสีขาวอวบอิ่มเพราะถูกจับจากแหล่งน้ำใสสะอาดและอากาศเย็นตลอดปีบริเวณคาบสมุทรทางตอนเหนือสุดของภูมิภาควางบนน้ำแข็งพร้อมตกแต่งจานอย่างสวยงามเพื่อรักษาความสดใหม่อยู่เสมอ สามารถอร่อยฟินได้ถึง 3 รูปแบบนั่นก็คือ 1.บีบน้ำเลมอนสดลงไปทำปฏิกิริยาทางเคมีช่วยดึงรสชาติหวานมันตามธรรมชาติชวนไหลลื่นลงคอออกมาเต็มประสิทธิภาพ 2.เทซอสพอนสึสไตล์ดินแดนอาทิตย์อุทัยดั้งเดิมเปรี้ยวเค็มกลมกล่อมซึ่งบนตัวหอยมีต้นหอมซอยกับหัวไชเท้าขูดฝอยผสมพริกป่นอยู่ด้านบนเล็กน้อยพร้อมกินได้เลยทันที 3.ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพริกขี้หนูสดตำสีแดงตำรับไทยแท้เผ็ดหวานอมเปรี้ยวหอมมะนาวสดดุดันไม่เกรงใจใครถูกปากคนชื่นชอบความแซ่บนัวจี๊ดจ๊าดอย่างแน่นอน รายการถัดไป "Aburi Shime Saba" ราคา 250 บาท ซาบะจับทะเลญี่ปุ่นแล่เป็นชิ้นขนาดครึ่งตัวดองเค็ม-เปรี้ยวกำลังดีช่วยตัดเลี่ยนไขมันสูตรโฮมเมดเฉพาะของทางร้าน "Koya Izakaya" เรียงบนกระบอกไม้ไผ่ลนไฟจนหนังด้านนอกสุกเกรียมส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายกินคู่วาซาบิ/ขิงบด/ต้นหอมซอยบีบน้ำมะนาวแค่นิดหน่อยพอสดชื่น เหมาะสำหรับวางตรงกลางวงแบ่งปันกันหลายคนหน่อยเพราะรสชาติค่อนข้างเข้มข้นครับผม
สายปลาสีส้มตัวจริงต้องกรีดร้องเพราะหัวหน้าเชฟของร้าน "Koya Izakaya" ได้คิดค้นวิธีการกินแซลมอนให้อร่อยเด็ดฟินถึงใจมากยิ่งขึ้นรวมกว่า 3 วิธีในเมนูเดียวนั่นก็คือ "Salmon Set" ราคา 1,090 บาท เสิร์ฟชุดใหญ่โตหน้าตาสวยงามอลังการวางวัตถุดิบเรียงบนชามกระเบื้องบรรจุน้ำแข็งเกล็ดเพื่อรักษาอุณหภูมิคงความสดใหม่พร้อมทานตลอดเวลา อันประกอบไปด้วย 1. ซาชิมิคัดเฉพาะส่วน Top Loin นำเข้าจากประเทศนอร์เวย์เกรดแช่เย็นแท้ไม่ผ่านกระบวนการละลายน้ำแข็งจึงมีเนื้อสีส้มสดใสแทรกชั้นไขมันสีขาวอย่างสวยงามจิ้มเพียงโชยุ-วาซาบิก็หวานเด้งนุ่มละมุนสไตล์ญี่ปุ่นหรือถ้าอยากแซ่บซี๊ดแบบไทยก็สามารถขอน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพริกขี้หนูเพิ่มได้ฟรี 2. ซาชิมิส่วนด้านล่างของท้องโทโร่ (Belly) คัดชิ้นไขมันหนาพิเศษแต่ก็ไม่เยอะเกินเพราะจะทำให้รู้สึกเลี่ยนมากระเบิดเต็มปากไหลลื่นลงคอ 3. Signature ซึ่งต้องสั่งรายการนี้เท่านั้นถึงจะสิทธิ์ลองทานได้แก่ Salmon Tataki (แซลมอนทาทากิ) เนื้อปลาสีส้มหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดจิ๋วคลุกน้ำยำญี่ปุ่นรสชาติเค็มหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นโชยุ-น้ำมันงากลมกล่อมเพิ่มสัมผัสสุดแตกต่างด้วย Ikura เป็นไข่ปลาแซลมอนคุณภาพชั้นดี เพียงคลุกทุกอย่างให้เขากันคีบชิมทันทีหรือจับวางบนแผ่นสาหร่ายโนริทอดเทมปุระเหมือนเมี่ยงก่อนใส่ปากคำโตๆก็อร่อยสะใจเปิดประสบการณ์ใหม่ชีวิตในดีครับ
สำหรับหมวด Sushi & Roll ทางหัวหน้าเชฟของร้าน "Koya Izakaya" ก็ได้คิดค้นขึ้นใหม่หลากหลายเมนูแต่วันนี้สั่งมาชิมเพียง 2 รายการเริ่มต้นกันด้วย "Maguro Spicy Roll" ราคา 295 บาท โรลซูชิม้วนสาหร่ายโนริแบบฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่นผสมอเมริกันกลับด้านข้าวออกสอดไส้แตงกวา,ไข่หวาน,อาโวคาโด,ครีมชีสหั่นเป็นชิ้นๆขนาดกำลังพอดีคำข้างบนสุดวางมากุโร่ส่วน Akami เนื้อแดงล้วนไร้ไขมันแทรกสับละเอียดคลุกซอสสไปซี่สูตรเข้มข้นพิเศษกับไข่ปลาบินสีส้มเล็กน้อยจัดเรียงบนจานทรงยาวที่เต็มไปด้วยเส้นหมี่ขาวทอดฟูราดสไปซี่มาโยชุ่มฉ่ำอีกครั้งก่อนเสิร์ฟรสชาติเผ็ดปนหวานอมเปรี้ยวหอมมันอร่อยนัวแถมยังได้สัมผัสกรุบกรอบและเย็นสดชื่นในคำเดียวกัน จานต่อไปนั่นก็คือ "Avocado Unagi Cheese Roll" ราคา 260 บาท หน้าตาแลดูธรรมดาแต่อัดไส้ด้านในปริมาณแน่นจัดเต็มทั้งปลาไหลย่างซอส/แตงกวา/ครีมชีส/ไข่ปลาบินม้วนกลับด้านพร้อมข้าวซูชิปรุงพิเศษและแผ่นสาหร่ายโนริท็อปปิ้งอาโวคาโดสไลซ์แผ่นบางบีบมายองเนสกับไข่กุ้งสีส้มอีกเล็กน้อยเรียงลงบนถาดแผ่นหินสีดำขนาดใหญ่สุดหรูหรา ให้รสชาติเค็มหวานมันกลมกล่อมถ้าหากรู้สึกเลี่ยนเพียงปาดวาซาบิบดเล็กน้อยก่อนเข้าปากได้ความเผ็ดฉุนขึ้นจมูกจี๊ดพุ่งถึงสมองสะใจทานขิงดองน้ำผึ้งสีชมพูอ่อนๆปิดท้ายช่วยเคลียร์กลิ่นคาวปลาเพื่อพร้อมเข้าสู่รายการถัดไปครับผม
แวะมาถึงร้านนั่งดื่มสไตล์อิซากายะทั้งทีอีกเมนูที่ต้องสั่งแบบพลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ Kushiyaki (คูชิยากิ) หรือวัตถุดิบย่างเสียบไม้หลากหลายชนิดโดยทาง "Koya Izakaya" มีให้ออเดอร์รวมกว่า 23 รายการแต่วันนี้เราสั่งมาลองชิมเพียงแค่ 4 อย่างเริ่มต้นกันด้วย "Asparagus Bekon" เบคอนรมควันพันยอดหน่อไม้ฝรั่งสัมผัสกรุบกรอบราคา 49 บาท / "Enoki Bekon" เบคอนรมควันพันเห็ดเข็มทองแน่นๆราคา 49 บาท / "Buta Bara" หมูอนามัยส่วนสามชั้นเนื้อสลับไขมันเสียบไม้ย่างราคา 49 บาท / "Tontoro" คอหมูแท้ลงย่างบนเตาถ่านจนสุกแห้งนอกฉ่ำในชวนเคี้ยวหนึบหนับสู้ฟันราคา 49 บาท วันนี้เราเลือกตำรับย่างเกลือล้วนวิธีการอร่อยเพียงบีบน้ำมะนาวสดเล็กน้อยช่วยตัดเลี่ยนไขมันก่อนรับประทานและถ้าคุณชื่นชอบรสชาติเข้มข้นพิเศษสามารถเปลี่ยนเป็นเคลือบซอสสูตรเฉพาะหวานเค็มกลมกล่อมได้ตามใจ อาหารคาวอย่างสุดท้ายอยากซดน้ำซุปร้อนๆให้รู้สึกสดชื่นคล่องคอกระปรี้กระเปร่าก็เลยเลือก "Buta Sukiyaki Nabe" ราคา 315 บาท หม้อขนาดเล็กวัสดุทำจากเหล็กสีดำมีหูหิ้ววางบนฐานยึดซึ่งมีช่องใส่ก้อนเจลแอลกอฮอล์ด้านล่าง ภายในบรรจุเส้นอุด้ง/ต้นหอม/แครอท/ไข่ไก่/เห็ดหอมสด/เต้าหู้ขาวนิ่ม/หมูคุโรบูตะส่วนสามชั้นกับน้ำซุปสุกี้ยากี้สีดำรสชาติหวานนำเค็มหอมโชยุ,ผงปลาคัตสึโอะ,สาหร่ายคอมบุเหมือนภัตตาคารดังรอน้ำซุปเดือดและวัตถุดิบทุกอย่างสุกก็ฟินได้ทันที เหมาะสำหรับปิดท้ายมื้อช่วยเรียกสติก่อนกลับบ้านมากๆครับ
จุดหมายปลายทางของคนส่วนใหญ่ที่แวะมาภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะก็คือการนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อนๆพร้อมพูดคุยเล่นยาวตลอดคืน โดยทางร้าน "Koya Izakaya" นั้นมีหลากหลายรายการเครื่องดื่มเตรียมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอันแตกต่างกัน เริ่มต้นด้วยเมนูพิเศษหน้าตาดูอลังการงานสร้างอย่าง "Winter Soshu In The Farris Whell" ราคา 699 บาท หรือชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า "โซจูแห่งฤดูหนาวบนชิงช้าสวรรค์" ใช้ไซรัปผลไม้รสสตรอว์เบอร์รี่,ลิ้นจี่,แอปเปิ้ลเขียวหวานอมเปรี้ยวผสมโซจูเกาหลีเข้มข้นพิเศษใส่ช๊อตเล็กๆเรียงบนชิงช้าสวรรค์แบบใสติดไฟนีออนสีสันสวยงามรวมกว่า 12 แก้ว (แนะนำว่าควรแบ่งแชร์กัน 3,4 คนเพราะดีกรีรุนแรงมาก) ถ้าคุณกำลังงดเว้นแอลกอฮอล์ด้วยเหตุผลส่วนตัวใดก็ตามนอกจากน้ำเปล่ากับน้ำอัดลมแล้วก็ยังมี Smoothie / Italian Soda อีกรวมกว่า 13 สูตรแต่วันนี้เราสั่งมาลองชิมแค่ "Strawberry Sour Smoothie" ราคา 159 บาท สตรอว์เบอร์รี่สดปั่นละเอียดใส่เนื้อสับปะรดและน้ำแข็งเกล็ดรสชาติหวานอมเปรี้ยวสัมผัสนวลเนียน-กลิ่นผลไม้หอมพุ่งขึ้นจมูก สายเครื่องดื่มมอลต์สกัดที่ร้านได้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแบบสดถึง 2 ยี่ห้อ Asahi Super Dry / Sapporo แก้วใหญ่มีความหนาพิเศษแช่ให้เย็นจัดก่อนเทบรรจุเพื่อรักษาความสดชื่นนุ่มนวลไหลลื่นลงคอชวนฝันหวานครับผม
ปิดท้ายกันด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นเราสั่งมาลอง 2 จากทั้งหมด 3 เมนูของทางร้าน "Koya Izakaya" ได้แก่ "Warabi Moji" ราคา 69 บาท ผงแป้งสกัดหัวใต้ดินชื่อว่าต้นวาราบิซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งตระกูลเดียวกับเฟิร์นหาได้เฉพาะฤดูใบไม้ผลิของดีจากภูมิภาคคันไซให้สัมผัสเหนียวหนึบสู้ฟันผสมผงวุ้นกับน้ำตาลทรายตัดชิ้นพอดีคำคลุกผงถั่วเหลืองญี่ปุ่นแห้ง (คินาโกะ) วิธีการทานเพียงราดซอสคุโระมิตซึ (Kuromitsu) หรือน้ำเชื่อมเข้มข้นสีดำเกาะยามานาชิหวานกลมกล่อมมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเคล้าให้เข้ากันก่อนเอาเข้าปากเพราะอาจทำให้ไอสำลัก สุดท้าย "Maccha Ore" ราคา 69 บาท ผงชาเขียวมัทฉะบดละเอียดจังหวัดชิซุโอะกะผสมนมฮอกไกโดหอมมันผสมน้ำตาลทรายเพียงเล็กน้อยพอหวานละมุนเพิ่มก้อนโมจิข้าวปั้นทรงกลมกดแบนสีขาวคล้ายขนมบัวลอยไทยลงไปเสิร์ฟแบบแช่เย็นเคี้ยวสนุกสดชื่นลงตัว ก่อนกลับบ้านนั่งพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนและเสพบรรยากาศแบบเจแปนสตรีทพร้อมฟังเพลงไทยสลับสากลร่วมสมัยคุ้นหูสุดเพลินภายในร้าน "โคย่าอิซากายะ" กันต่อแม้จะเริ่มมืดค่ำแล้วแต่ลูกค้าก็เดินเข้าเรื่อยๆยังไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลงแต่อย่างใดแสดงถึงการได้รับความนิยมอย่างสูงจึงไม่แปลกใจที่จะมีคนเขียนรีวิวแนะนำเยอะถึงแม้เพิ่งเปิดให้บริการเพียงไม่นานนัก ปล่อยเวลาพื้นฟูสติหลังจากดื่มกันสักครู่ก็ได้เวลาเรียกพนักงานมาคิดเงินแล้วครับ
มื้อนี้มากินดื่มกัน 4 คนสั่งอาหารจัดเต็มมากกว่า 21 เมนู จ่ายไปทั้งหมด 5,082 บาท (บวก Service Charge อีก 10% เพิ่มเรียบร้อยแล้ว) ภาพรวมถือว่าลงตัวทุกอย่างตั้งแต่อาหารรสชาติดีใช้วัตถุดิบสมกับราคาผสานบรรยากาศร้านสไตล์ Japan Street สุดชิลตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น แถมเดินทางสะดวก-มีพื้นที่จอดรถพร้อมกว้างขวางเปิดเพลงจังหวะสนุกๆชวนปลดปล่อยอารมณ์หลังแบกสารพัดปัญหาตลอดทั้งวัน ดีครบทุกด้านแบบนี้ได้รับคะแนนอร่อยคุ้มค่าไป 5 ดาวเลยครับผม🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 7/45 ถนนราชพฤกษ์-วัดอินทราวาส แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นจันทร์) ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 064-297-7079
Facebook : https://www.facebook.com/koyaizakaya
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments