top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิวร้าน"ก๋วยเตี๋ยวลงแพ"ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียงนครปฐม อร่อยกับต้มยำสูตรโบราณเดินตลาดน้ำและทำบุญ 9 วัด

อัปเดตเมื่อ 17 ก.ย. 2566



ภายในจังหวัดนครปฐมมีตลาดน้ำเปิดให้บริการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่หลายแห่ง โดยวันนี้เราก็จะพามาอีกหนึ่งตลาดเปิดใหม่มีจุดเด่นที่อาหารอร่อย/ราคาถูก/คนรู้จักไม่ค่อยเยอะจึงไม่ค่อยวุ่นวายมากนัก แถมแวะมาแล้วได้ทำบุญปิดทองลูกนิมิตร 9 วัดจบในที่เดียวไม่ต้องตะลอนขับรถให้เหนื่อยนั่นก็คือ "ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง" โดยจุดเด่นของวัดนี้คือ ทุกสิ้นปีเขาจะนำลูกนิมิตรที่ปิดทองแล้วไปบริจาคให้กับวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ต้องการสร้างโบสถ์ครบทั้ง 9 วัด และเมื่อทำบุญเสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินไปช๊อปปิ้งต่อที่ตลาดน้ำด้านหลังวัดได้อีกด้วย พ่อค้า-แม่ค้าที่มาเปิดแผงขายของก็คือคนในชุมชนละแวกนั้นรวมตัวกันขายอาหารและเครื่องดื่มราคาสุดถูก (ที่กทม.ไม่น่าจะหาซื้อในราคานี้ได้แล้ว) ตอนแรกกะว่ามาแค่ทำบุญแล้วซื้อของกินก่อนกลับบ้านเฉยๆ แต่หลวงพ่อขอให้เราแวะช่วยอุดหนุนที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตลาดน้ำสักหน่อย โดยร้านนี้เขาขายก๋วยเตี๋ยวนั่งทานบนแพบรรยากาศชิลล์ๆชมวิวแม่น้ำท่าจีนสร้างโดยหัวหน้าชุมชน มีจุดประสงค์เพื่อให้ร้านของเขาเป็นจุดศูนย์รวมดึงดูดนักท่องเที่ยวและทำให้เหล่าผู้ค้าในตลาดพอขายดีกันไปด้วย ร้านนี้ชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวลงแพ" เมื่อมาถึงหน้าร้านคิวยาวมากๆเพราะคนที่มาทำบุญต่างก็แวะมาทานร้านนี้กันหมด ระหว่างรอหิวมากๆเลยไปเดินเล่นและอุดหนุนร้านอื่นในตลาดเพื่อช่วยกระจายรายได้กันก่อนครับผม

ร้านแรกเห็นว่าควันหอมฉุยดีเลยแวะมาซื้อคือ "สุดยอดหมูสะเต๊ะนายเฉลียว" มากัน 4 คนก็เลยสั่งเป็นชุดใหญ่มาชิม 20 ไม้ 100 บาท (ตกราคาไม้ละ 5 บาท) หมูสะเต๊ะย่างถ่านไม้อวบๆมีทั้งไร้มันและติดมันเนื้อนุ่มหอมกะทิกับเครื่องเทศผงกระหรี่ ด้านนอกย่างมาแห้งเนื้อในฉ่ำทานกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะรสชาติเข้มข้นหอมเครื่องเทศมันถั่วลิสงได้อย่างลงตัวหรือจะทานคู่กับอาจาดก็สดชื่นอร่อยดี ตอนแรกนึกว่าเป็นร้านบ้านๆไม่ได้คาดหวังว่าจะอร่อยขนาดนี้เลยเข้าไปสอบถามคุณลุงเฉลียวได้ความมาว่า วันจันทร์-ศุกร์ปิ้งขายอยู่ที่หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย วันเสาร์-อาทิตย์คุณลุงก็จะมาขายที่นี่เพื่อมาช่วยหลวงพ่อที่วัดกลางคูเวียงนี้ ที่จริงมีอีกหลายๆร้านที่อร่อยทั้งขนมจีบหมูเตาถ่านหรือน้ำส้มคั้นสดๆ 100% บรรจุขวดละ 20 บาท โดยน้องนักเรียนในชุมชนมาตั้งแผงเล็กๆก็อร่อยสดชื่นดีแต่แบ่งกันทานแปปเดียวหมดเกลี้ยงแล้ว นั่งเล่นที่โต๊ะริมแม่น้ำกันสักพักก็ถึงคิวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโทรมาเรียกเราให้เข้าไปแล้วครับผม

ร้านหลักที่เรามารีวิววันนี้ชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวลงแพ" เพราะร้านอยู่ในแพสามารถนั่งชิลล์ทานก๋วยเตี๋ยวร้อนๆรับลมชิลล์ๆริมแม่น้ำท่าจีนได้เลย ภายในร้านมีที่ให้เลือกนั่งหลายมุมทั้งโต๊ะเตี้ยติดริมแม่น้ำ/โต๊ะเตี้ยถัดมากลางแพและโต๊ะแบบบาร์นั่งบนเก้าอี้ไม้มองดูวิวแม่น้ำได้ง่ายๆไม่ต้องนั่งพื้นให้เมื่อยขา โดยที่ร้านพยายามจัดหลายมุมให้สวยงามเพื่อให้ลูกค้าที่แวะมาถ่ายรูปอวดใน Social เป็นการโปรโมทร้านไปในตัว ส่วนครัวก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเหมือนเป็นการรวมร้านต่างๆทั้งลูกชิ้นปิ้ง/ของทอดทานเล่น/ก๋วยเตี๋ยว/เครื่องดื่มและไอศครีมเอาไว้ภายในร้านเดียว ซึ่งเหล่าพนักงานที่ทำงานในร้านทั้งหมดก็เป็นคนในชุมชนมาช่วยกันทุกวันยกเว้นวันจันทร์เพราะเป็นวัดหยุด แต่ช่วงวันหยุด ส.-อา. คนก็จะมากหน่อย ใครอยากมาทำบุญชิลล์ๆนั่งทานก๋วยเตี๋ยวริมแม่น้ำท่าจีนแบบไม่วุ่นวายก็มาวันอ.-ศ.แทนได้เลยครับ

เมนูในร้านเป็นกระดาษวางไว้ในถังจิ๋วสแตนเลสบนโต๊ะ อยากทานอะไรก็เขียนเลขจำนวนเข้าไปหน้าแรกเป็นเมนูทานเล่น ราคา 30-60 บาท เครื่องดื่ม 10-15 บาท ของหวาน 25 บาท หน้าที่ 2 เป็นก๋วยเตี๋ยวล้วนราคา 35-50 บาท สามารถเลือกเส้นหรืออยากได้อะไรพิเศษก็เขียนลงในช่องหมายเหตุได้เลย ที่สำคัญสุดคือใครแพ้กุ้งให้แจ้งทางร้านด้วยเพราะก๋วยเตี๋ยวเกือบทุกเมนูของที่ร้านเขาใส่กุ้งฝอยแห้งแบบโบราณเกือบทั้งหมด อย่าลืมบอกด้วยนะครับ

สั่งอาหารไปเรียบร้อยเมนูต่างๆทยอยมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วชามแรกเป็น "ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูต้มยำมะนาวแท้" ราคา 40 บาท เป็นต้มยำหมูแบบโบราณใส่พริกป่น/น้ำมะนาว/น้ำตาลผสมกับน้ำซุปหมูเพิ่มความเข้มข้นกลมกล่อมด้วยกุ้งฝอยแห้ง เครื่องต่างๆที่ใส่ลงไปทั้งหมูหมักเด้ง/ลูกชิ้น/หมูสับรวนคือคุณภาพดีไม่มีกลิ่นสาบหมู เส้นเล็กที่ใช้คุณภาพดีเหนียวนุ่มไม่เละจับกันเป็นก้อนเพิ่มสัมผัสด้วยเกี๊ยวทอดกรุบกรอบไม่มีกลิ่นหืนน้ำมันเก่า โดยรวมคือเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ดูสะอาดทานง่ายปรุงรสชาติมากลมกล่อมดูเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนดีครับ ใครไม่ชอบสูดเส้นก็ต้องสั่งเมนูนี้เลย "เกี๊ยวปลาต้มยำมะนาว ปิ่นโตโบว์ใหญ่" ราคา 50 บาท เป็นเกี๊ยวปลาเนื้อแน่นไม่มีกลิ่นคาวปรุงแบบเดียวกับต้มยำชามแรกแต่เปลี่ยนเครื่องจากหมูนุ่มและลูกชิ้นหมูเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นคุณภาพดีแทน ชามนี้มีความโดดเด่นด้วยเกี๊ยวทอดรูปโบว์ขนาดใหญ่ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป ไม่ใช่แค่สวยงามแต่ยังรสชาติอร่อยแซ่บอีกด้วยครับ

เมนูต่อไปเห็นว่าชื่อแปลกเลยสั่งมาลองดูคือ "ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เย็นตาโฟเครื่องหลวม(แล้วแต่ของจะมี)" ราคา 50 บาท ส่วนปริมาณที่มาเสิร์ฟนั้นไม่เรียกว่าหลวมแต่แน่นเต็มชามมากๆ ทั้งลูกชิ้นปลา/เต้าหูทอด/เต้าหู้ถัวเหลือง/เลือดไก่/หมึกกรอบ/เกี๊ยวทอดรูปโบว์วางเรียงกันแน่นจนแทบไม่เห็นตัวเส้น เบสเป็นน้ำซุปหมูราดด้วยซอสเย็นตาโฟสีชมพูรสชาติกลมกล่อม ใครอยากทานแบบต้มยำก็ปรุงเพิ่มได้ตามใจเลยจ้า ส่วนเมนูชามต่อไปนี้มีเสิร์ฟแต่แบบแห้งคือ "บะหมี่เฮี่ยนเต้ (มีแต่แห้ง...น้ำหมด) ราคา 45 บาท เป็นบะหมี่ไข่คลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวปรุงรสด้วยน้ำตาลพริกป่นและซีอิ๊ว เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอมหั่นเส้นท๊อบปิ้งด้วยลูกชิ้นปลา/กุ้ง/หมูหลากหลายชนิด ก่อนทานโรยเกี๊ยวทอดหั่นเส้นลงไปคลุกให้เข้ากันแบบยำก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยได้ง่ายๆ ถ้าสั่งเมนูนี้แล้วอยากซดน้ำซุปหน่อยขอเพิ่มได้ครับ

ตอนแรกคิดว่าพริกป่นที่ร้านนี้คงไม่เผ็ดมากเลยสั่งตักเพิ่มเข้าไปอีก 1 ช้อนเล็กๆขอบอกว่าอย่าหาทำเพราะพริกป่นที่นี่เผ็ดแบบไม่มีอะไรกั้นแถมไม่มีป้ายเตือนด้วยเกือบทนแทบไม่ไหว แต่ยังดีที่สั่งเมนูน้ำใสมาเผื่อก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูน้ำใส ไหลเย็นเห็นมันหมู" ราคาถูกสุดในร้านเพียง 35 บาท แต่ใส่เครื่องให้เยอะไม่แพ้กับก๋วยเตี๋ยวต้มยำชามแรกแถมยังเพิ่มลูกชิ้นปลาเส้นทอดมาให้อีก 2 ชิ้น ได้รสชาติของน้ำซุปหมูผสมกุ้งฝอยแห้งสูตรโบราณแบบเต็มคำดีครับ เมนูเส้นจานสุดท้ายเป็นแบบฟิวชั่นเลยสั่งมาลองชิมดูคือ"ผัดมาม่ากิมจิราคาสูง (กิมจิมันแพง)" แต่ขายแค่ 60 บาท เป็นมาม่าผัดกับหมูสามชั้นสไลด์และกิมจิรสชาติเปรี้ยวเผ็ดอร่อยไม่แพ้ร้านเกาหลีเจ้าดังๆในกรุงเทพ เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปใสไว้ซดคล่องคอถือว่าอร่อยเกินคาดมากๆ เป็นเมนูราคาบ้านๆแต่อร่อยระดับภัตตาคารเลยครับผม

หมดเมนูจานเส้นก็มาอร่อยกันต่อกับของทานเล่นจานแรกเป็น "ลูกชิ้นหมูปิ้งนครปฐมแท้ๆ" ชุดละ 40 บาท ให้มา 4 ไม้ เป็นลูกชิ้นหมูเนื้อละเอียดคล้ายลูกชิ้นปลาย่างทานกับน้ำจิ้มมะขามเปียกรสเปรี้ยวหวานเผ็ดนิดๆดีมาก แต่ตัวลูกชิ้นส่วนตัวไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่อาจจะเป็นสูตรของทางร้านเขาก็ได้แล้วแต่คนชอบครับ จานต่อมาเป็นของทอดคือ "ฟิชบอลชีส" ราคา 49 บาท ใน 1 ชุดให้มา 6 ลูก เป็นลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นๆสอดไส้ชีสหอมมันคลุกกับเกล็ดขนมปังทอดจนสีเหลืองทองเสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศ เป็นเมนูทานเล่นที่ดูง่ายไม่ซับซ้อนและเด็กๆน่าจะชอบครับผม จานสุดท้ายคือ "กุ้งสติ๊ก" ราคา 49 บาท หรือที่ร้านอาหารในกรุงเทพมักจะเรียกว่าขลุ่ยกุ้งทอดกรอบหอมกลิ่นสามเกลอหอมๆทานกับน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวอมหวาน ถ้าไม่ติดว่าร้านอยู่ในเขตวัดเมนูนี้ถือว่าเป็นกับแกล้มชั้นดีได้เลยจ้า

เครื่องดื่มก็ราคาไม่แพงแค่แก้วละ 15 บาทมีให้เลือกทั้งน้ำเก็กฮวย/น้ำกระเจี๊ยบ/น้ำลำไย ต้มมาหอมใส่น้ำตาลมาไม่หวานจนเกินไปดื่มง่ายๆเข้ากับก๋วยเตี๋ยวรสชาติสะอาดๆของทางร้านได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำดื่มขวดละ 10 บาทน้ำแข็งราคาแก้วละ 2 บาท ส่วนของหวานมีเป็นเฉาก๊วยชากังราวแต่วันนี้หมด ค่อยไปหาทานตลาดด้านนอกต่อครับ

มื้อนี้สั่งอาหารกันไปหลายอย่างมากเพราะนั่งชิลล์ๆติดกับริมแม่น้ำท่าจีนแล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวให้มาเสิร์ฟเรื่อยๆแบบ Non Stop คิดราคาออกมา 793 บาท มากัน 4 คนตกคนละเกือบ 200 บาทแต่อิ่มจุกสุดๆ อิ่มแล้วถ้ายังอยากชิลล์ต่อในร้านก็สามารถไปหยอดตู้บริจาดเพื่อซื้ออาหารปลาถุงละ 20 บาทมาโยนให้ปลาสวายตรงจุดที่เรานั่งได้อีกด้วย เรียกว่าได้อร่อยกับก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ/นั่งรับลมชมวิวริมแม่น้ำแล้วยังได้ทำบุญอีก ครบเครื่องในร้านเดียวดีครับ

ปากว่าอิ่มแล้วแต่เห็นราคาอาหารภายในตลาดน้ำนี้ราคาถูกมากๆ จะไม่ซื้อติดมือกลับไปหน่อยก็คงไม่ได้นั่นก็คือ "ข้าวเกรียบปากหม้อ" และ "สาคูไส้หมู" ราคาตัวละ 2 บาท ใน 1 แพ็คบรรจุ 5 ชิ้นขายเพียง 10 บาทเท่านั้น (ราคานี้หาซื้อไม่ได้ในกรุงเทพแล้ว) คุณป้าเจ้าของร้านยืนทำให้สดๆหน้าเตา ข้าวเกรียบปากหม้อแป้งบางสอดด้วยไส้ไชโป้วหวานผัดหอมกลิ่นรากผักชี/กระเทียม/พริกไทยตำรับโบราณแท้ใส่ถั่วลิสงน้อยหน่อยเคี้ยวกรุบกรอบในปากดีครับ

สุดท้ายเจอร้านคุณลุงขายน้ำตาลปั้นอยู่ก็ถือว่าน่าสนใจแต่ที่น่าสนุกก็คือร้านนี้มีตังเมโบราณสอดไส้ถั่วลิสงคั่วที่หยอดเหรียญ 10 บาทแล้วสุ่มว่าจะได้ทานกี่ชิ้น (มี 2-5 ชิ้น) วันนี้ผมสุ่มได้ 4 ชิ้นคุณลุงก็เดินมาตัดให้เป็นตังเมแบบโบราณแท้ถั่วคั่วใหม่ๆไม่เหม็นหืนหวานมันติดฟันนิดๆ ได้อารมณ์เหมือนย้อนยุดไปในวัยเด็กดีครับ ปกติแล้วเราจะให้คะแนนเฉพาะร้านอาหารแต่ครั้งนี้ขอให้คะแนนความอร่อยและคุ้มค่าทั้งตลาดไป 5 ดาวเต็มครับ 🌟🌟🌟🌟🌟ทั้งอาหารอร่อย/ขายราคาถูกมาก/มีลานจอดรถในร่มใหญ่กว้างขวาง เสร็จแล้วทำบุญ 9 วัดได้อีกด้วยครบถ้วนครับ

พิกัด : วัดกลางคูเวียง เลขที่ 12 ซอย 1 หมู่ 3 ตำบลสัมปทวน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120

เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. โทร. 092-946-6428

Facebook : https://bit.ly/2Ev8xJz

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 377 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page