บริเวณสามย่านใกล้กับมหาวิทยาลัยจุฬาฯมีร้านอาหารราคาถูกและอร่อยเอาใจนักศึกษาอยู่มากมาย วันนี้เราจะพามารีวิวหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมนั่นคือ "Mee OK" สาขาสามย่าน ที่จริงแบรนด์นี้เขามีอีกหลายสาขาส่วนตัวก็เคยทานมาก่อนหน้านี้แล้วรสชาติถือว่าอร่อยใช้ได้ จุดเด่นของร้านนี้คือเส้นบะหมี่หลายสีสันทำจากวัตถุดิบธรรมชาติและมาร้านเดียวก็ได้ทานเมนูบะหมี่ถึง 3 สัญชาติทั้งไทย-ญี่ปุ่น-จีน ที่สำคัญราคาเริ่มต้นเพียง 59 บาทเท่านั้นถือว่าราคาไม่แพง อีกทั้งตอนนี้มีการปรับปรุงร้านใหม่ให้ดูสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังขายราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน เลยชวนคุณแฟนว่าวันนี้เรามารีวิวที่นี่กันดีกว่าเพราะไม่ได้ทานร้านนี้มานานแล้ว และเป็นการอัพเดทร้านใหม่ด้วยไปในตัว วิธีการเดินทางมาก็ไม่ยากถ้าไม่อยากเสียค่าจอดรถก็ลง MRT สถานีสามย่าน ขึ้นทางออกห้างสามย่านมิตรทาวน์เดินมาตามแอป Google Maps ประมาณ 400 เมตร ถ้าขี้เกียจเดินมาภายในซอยจุฬา 11 นี้มีที่จอดรถมากมาย (แต่เสียค่าจอดรถ) ก็จะเจอร้าน Mee OK ที่มีป้ายแถบสีแดงใหญ่เขียนว่า Noodle Cafe มองเห็นได้จากไกลๆแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ ก่อนเข้าร้านเห็นว่าเมนูมีการปรับปรุงใหม่ด้วยเราเข้าไปด้านในกันครับผม
บรรยากาศภายในร้านมีความโมเดิร์นมากกว่าเดิม มีมุมสำหรับนั่งทานคนเดียว-คู่/ครอบครัวหรือมากับเพื่อนๆจำนวนมากก็มีโต๊ะใหญ่ติดกับกระจกหน้าร้านให้นั่งสังสรรค์กันด้วย ทุกมุมในร้านใช้แสงสีส้มผสมกับแสงธรรมชาติที่มาจากกระจกบานใหญ่ ก่อนหน้านี้นักเรียนเพิ่งเลิกมานั่งทานบะหมี่ในร้านเสียงดังมากถ้าอยากได้ความสงบหน่อยแนะนำว่าให้มาช่วงบ่ายไม่ก็เกือบพลบค่ำไปเลยร้านจะสวยสงบเหมาะแก่การนั่งทานชิลล์ๆมากครับ ส่วน Concept ร้านก็ยังคงเหมือนเดิมคือเป็นแบบ Fast Food สั่งอาหารจ่ายเงินก่อนแล้วรอรับอาหารที่โต๊ะ เค้าท์เตอร์รับออเดอร์ถูกทำให้เล็กลงกว่าเมื่อก่อนเพื่อขยายพื้นที่ในร้านให้กว้างมากกว่าเดิม ไม่รู้จะทานอะไรขอเมนูไปดูที่โต๊ะก่อนนะครับ
เมนูส่วนใหญ่ค่อนข้างจะคล้ายๆแบบเดิมแต่มีการจัดเซ็ตก๋วยเตี๋ยวใหม่และเพิ่มเมนูข้าวมาด้วย หน้าแรกเป็นรวมเมนูแนะนำของที่ร้านทั้ง Family Set เริ่มต้นที่ 199 บาท เมนูบะหมี่และเกี๊ยวแบบจีนราคาเริ่มต้นที่ 59 บาท ราเมนและข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 79 บาท บะหมี่สไตล์ไทยๆเริ่มต้นที่ 69 บาท เพิ่มท๊อบปิ้งได้เริ่มต้นที่ 10 บาท เส้นบะหมี่ก็ยังมีให้เลือกครบทั้ง 7 สี (เส้นไข่/เส้นหยก/เส้นงาดำ/เส้นกระเพรา/เส้นขมิ้น/เส้นใบเตย/เส้นกระเจี๊ยบ) น้ำดื่มราคาเริ่มต้นที่ 15 บาท เปิดเมนูเล่มใหญ่ก็มีมาเพิ่มอีกนิดหน่อยคืออาหารทานเล่นเริ่มต้นที่ 49 บาท ของหวานมีแค่เมนูเดียวคือบะหมี่หวาน 39 บาท (ซึ่งเมื่อก่อนร้านนี้ไม่เคยมีของทานเล่นและของหวาน) ถือว่าเป็นการปรับปรุงให้เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้ามากกว่าเมื่อก่อนที่เน้นเมนูเส้นเพียงอย่างเดียว อยากทานอะไรก็ออเดอร์พร้อมกับจ่ายเงินให้เรียบร้อย วันนี้สั่งแบบเต็มที่ทั้งบะหมี่สัญชาติไทย/จีน-ญี่ปุ่นเพื่อจะได้รีวิวอย่างหลากหลายทั้งหมด 12 รายการจ่ายไปแค่ 712 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจเราอีกเช่นเคย จานนี้แค่หาที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟครับ
จานแรกมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วคือ"บะหมี่ต้มยำสุโขทัย"ราคา 69 บาท ชามนี้เลือกเป็นบะหมี่เส้นงาดำเสิร์ฟแบบแห้งตำรับโบราณ ท๊อบปิ้งในชามมากมายประกอบไปด้วยหมูเด้ง/ลูกชิ้นหมู/หมูสับ/กระเทียมเจียว/กุ้งแห้ง/ถั่วลิสง/ไข่ต้ม/กระหล่ำปลีลวก/ถั่วฝักยาวลวก/เกี๊ยวกรอบ ตกแต่งด้วยมะนาวซีก/พริกสดโรยผักชีฝรั่ง วิธีการทานคือคลุกทุกอย่างให้เข้ากันไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มแล้ว เพราะเขาราดน้ำยำรสชาติเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นมะนาวสดเพิ่มพริกป่นให้เรียบร้อย ได้หลากหลายสัมผัสในชามเดียวทั้ง ความหวานกรุบกรอบของผักลวก/ความหอมมันจากกระเทียมเจียว-กุ้งแห้งและถั่วลิสง/เด้งหนึบสู้ฟันนิดๆของเหล่าหมูลวกและลูกชิ้นแบบโฮมเมดที่ใส่ลงไป ส่วนเส้นงาดำเหนียวนุ่มไม่ได้มีกลิ่นหรือรสชาติของงาดำออกมามากมายจนรบกวนรสชาติของก๋วยเตี๋ยว เสิร์ฟมาพร้อมซุปใสไว้ซดตามหรือถ้าอยากทานแบบขลุกขลิกก็เพิ่มลงไปในชามได้เหมือนกันครับ ข้ามไปที่เมนูสัญชาติจีนอย่าง "บะหมี่หมูแดง" ราคา 59 บาท ชามนี้เลือกเราเป็นเส้นกะเพราเป็นเมนูบะหมี่ราคาถูกสุดในร้านแต่ให้ปริมาณเยอะจุใจ บะหมี่เส้นกะเพราเหนียวนุ่มเหมือนงาดำชามแรกแต่มีกลิ่นกระเพราเบาบางมากๆทำให้ไม่รบกวนรสชาติของส่วนประกอบอื่นๆ คลุกกระเทียมเจียวหอมๆก่อนจะท๊อบปิ้งด้วยหมูแดงมันน้อยแต่นุ่มพร้อมไข่ต้ม/กวางตุ้งฮ่องกงลวก เสิร์ฟมาพร้อมกับเกี๊ยวทอด/ซุปใสและน้ำราดหมูแดงฮ่องกงหอมเครื่องเทศบาร์บีคิวเข้มข้น ก่อนทานแค่ราดซอสหมูแดงลงไปก็ได้ความอร่อยต้นตำรับจีนแท้ๆ หากใครอยากได้รสชาติแบบบะหมี่หมูแดงไทยก็มีเครื่องปรุงให้บนโต๊ะเพิ่มรสชาติกันได้ตามใจเลยครับ
ยังคงอยู่ในเมนูตำรับจีนแต่สั่งเป็นซุปทานง่ายๆอย่าง"เกี๊ยวกุ้งน้ำ 5 สี"ราคา 69 บาท เป็นเกี๊ยวหมูเด้งผสมกับเนื้อกุ้งกรุบกรอบห่อด้วยแป้ง 5 สีคืองาดำ/กระเจี๊ยบ/ขมิ้น/ใบเตยและไข่ เสิร์ฟพร้อมกวางตุ้งฮ่องเต้และซุปใสสูตรของทางร้านสีเหลืองทองกลมกล่อมรสกระดูกหมู ไส้เกี๊ยวเนื้อแน่นหอมกลิ่นสมุนไพรสามเกลอและน้ำมันงา ส่วนตัวแป้งไม่ได้มีรสชาติของวัตถุดิบที่ใส่ลงไปมากวนแม้แต่น้อย ทานกับน้ำซุปก็หอมหวานคล่องคอดีหรือจะเพิ่มความเผ็ดแซ่บด้วยน้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้งเข้มข้นที่มาพร้อมกันในชุดจะทานเป็นเมนูทานเล่นหรือจริงจังก็ได้สำหรับชามนี้ ต่อมาข้ามไปประเทศญี่ปุ่นกันบ้างเห็นว่าเป็นเมนูใหม่เลยสั่งมาชิมคือ"ข้าวหน้าชาชูด้ง"ราคา 79 บาท เป็นหมูชาชูส่วนสามชั้นตุ๋นจนนุ่มแล้วนำไปหั่นบางๆย่างกับซอสเทริยากิรสหวานเค็ม ก่อนจะท๊อบปิ้งลงบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆโรยด้วยงาขาวและสาหร่าย โดย 1 ชามใส่หมูชาชูมาให้ถึง 6 แผ่นใหญ่รสชาติเข้มข้นทานกับข้าวสวยได้หมดชามจนเม็ดสุดท้าย
พักอร่อยกับเมนูหลักมาสนุกกับของทานเล่นอย่าง"ทาโกะยากิ" ราคา 69 บาท ด้วยความอยากลองทานอาหารญี่ปุ่นในร้านบะหมี่ก็เลยลองสั่งมาดูว่าเขาจะทำได้ดีไหม ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังเป็นทาโกะยากิกรอบนอกเนื้อแป้งด้านในเป็นครีมสอดไส้ปลาหมึกทาโกะ 2 ชิ้นใหญ่ๆ ราดด้วยซอสทาโกะมาโยและสาหร่ายมาแบบถึงใจได้รสชาติเข้มข้นตำรับญี่ปุ่นในทุกๆคำ ถือว่าอร่อยเกินคาดไปมากๆครับ ตามมาด้วย"เกี๊ยวซ่าทอด" ราคา 59 บาท เป็นเกี๊ยวซ่าที่ไส้อัดแน่นไปด้วยหมูสับและกุ้ยช่ายหอมๆทานกับซอสรสเค็มเปรี้ยวตามแบบฉบับญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจานนี้จะไม่โดดเด่นมากนักแต่ก็ถือว่าเป็นเกี๊ยวซ่าที่แป้งกรอบไส้แน่นรสชาติมาตรฐาน รับประทานกันได้ง่ายๆทุกเพศทุกวัยแน่นอนครับ
เมนูต่อมาสั่งแบบชุดใหญ่เพราะเห็นว่ามีเมนูทานเล่นที่แถมมาหลากหลายดีคือ"ชุดราเมนอิกิไค"ราคา 199 บาท สามารถเลือกได้ 1 จาก 3 น้ำซุปคือ โชยุ/ต้มยำและทงคตสึ วันนี้เราเลือกเป็นแบบออริจินอลคือทงคตสึมาชิม ซุปสีขาวข้นเต็มไปด้วยความหอมมันจากกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อมไม่เลี่ยนเกินไปแบบร้านราเมนตำรับญี่ปุ่นแท้ ในชามใช้เส้นราเมนกลมไม่ใช่บะหมี่ 7 สีเหมือนเมนูก่อนหน้านี้ มีความเหนียวนุ่มและกลมใหญ่มากกว่า มาพร้อมกับหมูชาชูต้มนุ่มๆรสชาติหวานหอมโชยุเพิ่มรสชาติด้วยไข่ออนเซ็นให้ความหอมมันลงตัว ในชุดนี้มาพร้อมกับอาหารทานเล่น 3 อย่างคือ หมูทอดทงคัตสึกรอบๆ/กุ้งทอดเทมปุระและเกี๊ยวซ่าเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มทงคัตสึเอาไว้จิ้มกับทั้งหมดก็เลยรู้สึกแปลกๆไปหน่อยแต่ก็อร่อยดี ทานเสร็จเปิดดูเครื่องปรุงที่วางบนโต๊ะพร่องไปแค่พริกป่นอย่างเดียวก็ไม่แปลกใจนักเพราะทุกชามเขาปรุงรสมาอร่อยลงตัวอยู่แล้วไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม ถือว่าอร่อยได้มาตรฐานดีไม่เปลี่ยนแปลงครับ
เมนูของหวานที่สั่งไปตามมาเสิร์ฟทีหลังสุดคือ"บะหมี่หวาน"ราคา 39 บาท เป็นบะหมี่สี่สีคือหยก/ใบเตย/งาดำและกระเจี๊ยบ เสิร์ฟพร้อมแปะก๊วย/เนื้อลำไยและน้ำตาลทรายแดงใส่น้ำแข็งเย็นๆซดแล้วสดชื่น รสชาติโดยรวมแล้วเหมือนกับโบ๊ยเกี่ยน้ำลำไยที่ขายแถมเยาวราชแต่สีสันสวยงามกว่า ส่วนเครื่องดื่มก็สั่งเป็นชาเขียวมะลิกับน้ำเก็กฮวยราคาแก้วละ 35 บาท ใส่น้ำแข็งมาปริมาณกำลังดีไม่ได้อัดมาแน่นเพื่อเอากำไรเยอะแบบหลายร้าน หวานหอมสดชื่นกำลังดีและการใส่น้ำแข็งน้อยทำให้เมื่อทิ้งไว้ละลายรสชาติก็ไม่ได้จืดลงมากนัก โดยรวมแล้วร้าน Mee OK นี้ก็ถือว่าทำการบ้านมาดี เพราะมีการเพิ่มเมนูให้เลือกหลากหลายกว่าเมื่อก่อนแต่ยังคงความอร่อย/ราคาถูกเอาไว้เหมือนเดิมแถมยังทำร้านใหม่เกือบทั้งหมดให้ดูทันสมัยมากขึ้น บรรยากาศสวยโมเดิร์นมีที่ให้ถ่ายรูปเก๋ๆอยู่หลากหลายมุมเรียกได้ว่าเป็นร้านบะหมี่คาเฟ่แบบเต็มตัว รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวเต็มจ้า 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 198 ซอยจุฬา 11 ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม 10330 กรุงเทพมหานคร 10330
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. โทร. 088-632-2469
Facebook : https://www.facebook.com/MeeOKSamyan/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments