ถ้านึกถึงตลาดพลูอย่างแรกที่ทุกคนพูดเหมือนกันหมดก็คือแหล่งรวมของอร่อยระดับตำนานหลายร้านและวันนี้เราจะพามาทานขนมกุยช่ายอันเลื่องชื่อและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน เพราะเป็นเจ้าเก่าในย่านนี้ก็คือ "ป๋าป้า เตี้ยมซิม" ตั้งแต่รุ่นอาม่าเข็นรถขายอยู่หน้าวัดกันตทารารามหรือวัดใหม่จีนกันตรงซอยเทอดไท 23 จนตอนนี้กลายมาเป็นตึกแถวขนาดใหญ่มีพื้นที่ให้นั่งทานสบายๆรวมระยะเวลาเกือบ 50 ปี จุดเด่นของทางร้านคือเป็นสูตรโบราณแป้งบางไส้เยอะรสชาติกลมกล่อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด นำไปนึ่งหรือทอดเสิร์ฟให้กินสดใหม่ร้อนๆจนกลายเป็นเมนูเด็ดที่ผู้คนในย่านตลาดพลูเลื่องลือเรื่องความอร่อยกันจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีอาหารประจำวัน/เครื่องดื่ม/ขนมหวานสไตล์จีนโบราณเปลี่ยนไปทุก 7 วันไม่ซ้ำกันให้ลูกค้าไม่เบื่อ วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวปักหมุดมาที่ร้านข้างหน้ามีลานจอดขนาดใหญ่ให้บริการ ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีตลาดพลูแล้ว เดินเท้าหรือเรียกรถเข้ามาอีกประมาณ 800 เมตรก็จะพบกับป้าย "ป๋าป้า เตี้ยมซิม" สีน้ำเงินเขียนด้วยตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่มองเห็นเด่นชัดตรงประตูหน้าทางเข้าโครงการ T-biz home แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้นแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วครับผม
เรามาถึงช่วงบ่ายตอนที่ลูกค้ามีน้อยเลยขอเดินสำรวจตามมุมต่างๆภายในกันก่อน เริ่มจากหน้าประตูทางเข้าวางชั้นขายขนมขบเคี้ยวแบบไทย/ตู้ไอศครีมของ ETE/ตู้แช่แข็งขนมกุยช่ายสำหรับเอาไปเป็นของฝากให้นึ่งหรือทอดกินเองต่อที่บ้าน/ป้ายเมนูแนะนำประจำวันเขียนด้วยมือและจุดลงทะเบียนไทยชนะพร้อมเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าไปในร้าน ด้านซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยขนมกุยช่ายไส้ต่างๆเรียงในตู้กระจกใสปิดสนิทป้องกันแมลงดูสะอาดพร้อมกระทะแบนสีดำขนาดใหญ่เอาไว้ทอดและตู้นึ่งใส่ซาลาเปาหมั่นโถวเอาไว้ ติดกันมีตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ที่ด้านในมีขนมหวาน-เครื่องดื่มและน้ำสมุนไพรต่างๆให้หยิบได้ด้วยตัวเอง สำหรับคนรีบมากเป็นพิเศษสามารถออเดอร์กับน้องพนักงานเดินเลือกของที่อยากได้จากจุดนี้หรือจะซื้อไปทาน-ฝากคนที่บ้านต่อก็สะดวกรวดเร็วดีครับ
ด้านขวามือเป็นโซนโต๊ะเก้าอี้ทำจากชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งและหินอ่อนแผ่นสีขาวขนาดใหญ่ดูแข็งแรงทนทานเหมือนได้นั่งทานข้าวที่บ้าน เปิดแอร์พร้อมพัดลมเย็นสบายดีแต่ไม่มีกระจกกั้นด้านหน้าร้านจึงไม่ค่อยรู้สึกชุ่มฉ่ำปอดสักเท่าไหร่ ภายตกแต่งร้านด้วยสีแดงสดสลับน้ำเงินผนังติดกระจกขนาดใหญ่และเพดานสูงจึงทำให้รู้สึกกว้างถึงแม้จะมีพื้นที่เพียง 1 ช่วงตึกเท่านั้น บนกำแพงวาดรูปศิลปะพู่กัน-ติดสติกเกอร์ลายจีนสีสดใสและด้านในสุดเป็นชั้นวางพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่เจ้าของร้านนับถือดูง่ายๆ เพิ่มความอบอุ่นด้วยโคมไฟทำจากไม้ไผ่สานโทนสีเหลือง-ส้มชวนให้นั่งนานโดยแต่ละโต๊ะมีฉากกั้นพลาสติกเอาไว้ให้เลื่อนขยับไป-มาตามจำนวนคนได้ด้วยตัวเอง ตามมาด้วยประวัติของทางร้านที่เขียนรายละเอียดต่างๆพอจับใจความได้ว่า เป็นต้นตำรับกุยช่ายตลาดพลูก่อตั้งโดยอาม่ากุ้ยไน้เริ่มต้นเมื่อปี 2516 เป็นโรงงานผลิตพร้อมเปิดหน้าร้านเป็นรถเข็นเล็กๆอยู่หน้าวัดกันตทารารามหรือวัดใหม่จีนกันริมคลองบางน้ำชนเจ้าแรกจนสมัยนั้นใครก็เรียกว่ากุยช่ายหน้าวัด สูตรความอร่อยต่างๆก็ถูกส่งต่อมาเรื่อยเป็น "ป๋าป้า เตี้ยมซิม" แปลว่าของว่างที่กินแล้วอิ่ม จุดเด่นนั่นคือขนมกุยฉ่ายที่มีรอยจีบทำมือไส้เยอะและสะอาดถูกหลักอนามัยจึงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันนับถึงตอนนี้ก็ 49 ปีแล้วพร้อมรูปถ่ายเก่าสมัยนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นของจริงแท้แน่นอนครับ
มาถึงก็นั่งที่โต๊ะน้องพนักงานก็ยกเล่มเมนูออกมาให้เป็นหน้าปกแข็งกระดาษหนาเย็บสันแข็งแรงคุณภาพดีมากๆ หน้าแรกเป็นประวัติร้านที่เราได้สรุปไปแล้วและเมนูเด็ดอย่าง "ขนมกุยช่าย" เห็นการตกแต่งร้านสวยงามขนาดนี้ขายราคาเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 10 บาท แพงสุดเป็นกุยช่ายแก้ผ้าทอดกรอบ-กุยช่ายใบโพธิ์ชิ้นยักษ์ราคาแค่ชิ้นละ 25 บาท มีให้เลือก 4 ไส้ได้แก่ 1. ไส้ผักหรือกุยช่ายสับที่เราคุ้นเคย 2. ไส้เผือกซึ่งขายดีมากๆ 3. ไส้หน่อไม้ และ 4 ไส้มันแกว ที่แปลกหน่อยก็จะเป็นเผือกเปลือยชิ้นละ 15 บาท และบางรายการไม่ได้ขายตลอดแต่ต้องโทรจองล่วงหน้า 1-2 วันซึ่งแน่นอนว่าวันนี้เราได้จัดการเอาไว้แล้ว นอกจากกุยช่ายแล้วยังมีรายการอาหารประจำวัน (ร้านนี้ปิดทุกๆวันจันทร์) เริ่มจากวันอังคารมีก๋วยเตี๋ยวหลอด-วันพุธก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ-วันพฤหัสบดีข้าวซี่โครงหมูอบ-วันศุกร์มีก๋วยเตี๋ยวน้ำใสแต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นขายทุกวันใส่ลูกชิ้นแคะ/ลูกชิ้นหมู/เกี๊ยวหมู/เกี๊ยวกุ้ง/หมูแดงและเลือกเส้นได้ว่าจะเอาเล็ก/ใหญ่/หมี่ขาวหรือบะหมี่ ส่วนวันเสาร์พิเศษสุดคือมีข้าวคลุกกะปิราคาจานละ 60 บาท-วันอาทิตย์ขายเหมือนวันศุกร์ทุกอย่างเมนูละ 50 บาทเกือบทุกรายการตั้งแต่ต้นสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีอาหารตามสั่งที่ขายทุกวันทั้งข้าวผัด/พริกแกง/กะเพราราคาเริ่มต้นที่ 50-80 บาทเลือกได้ทั้งหมู/ไก่/กุ้ง/ปลา/ปลาหมึก/หมูกรอบทั้งราดข้าวและเป็นกับครับ
หน้าต่อไปก็ยังคงเป็นอาหารตามสั่งที่ขายทุกวันทั้งกะเพราเต้าหู้/แกงจืดเต้าหู้-หมูสับ/ข้าวไข่เจียว/หมูกระเทียมพริกไทยทั้งแบบราดข้าวและกับข้าวราคา 50-70 บาท ถ้าต้องการข้าวเปล่า-ไข่ดาวคิดรายการละ 10 บาท หน้าต่อไปเป็นของทานเล่นต่างๆมีทั้งหอยจ๊อ/เต้าหู้ทอด/แฮกึ๋น/เกี๊ยวทอดกรอบและเกี๊ยวซ่าราคา 30-60 บาท หมั่นโถวนึ่งผสมฟักทอง/มันม่วง/น้ำตาลอ้อยลูกละ 17 บาท หมูเส้นทอดกระปุกใหญ่ 210 บาท ลูกชิ้นแคะลูกชิ้นหมูลวกจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดจานละ 45 บาท บ๊ะจ่างลูกละ 45 บาท ซาลาเปาไส้หมูสับหมูแดงลูกละ 19 บาท หมูยอทอด 50 บาท ขนมจีบรวมจานละ 45 บาท สุดท้ายเป็นหมวดขนมหวานเสิร์ฟร้อนกับเย็นสไตล์จีนรวมกว่า 8 เมนูราคาถ้วยละ 20-50 บาท เครื่องดื่มเป็นน้ำเปล่า/น้ำสมุนไพร/น้ำเต้าหู้/น้ำอัดลมขวดละ 10-25 บาท ใครที่ชอบชาจีนที่ร้านขายเป็นชุดให้ชงเองแบบโบราณราคา 69-99 บาทมีให้เลือกถึง 6 ใบชาจีนชื่อดัง ส่วนเมนูเด็ดที่ร้านแนะนำอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์สั่งสินค้าอยู่แล้วสามารถสั่งได้แบบด่วนๆ โดยรวมถือว่ามีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากๆมากี่ครั้งก็ไม่เบื่อแน่นอนครับ
จานแรกสั่งมาเป็น "เผือกเปลือย" แบบทอดราคาชิ้นละ 15 บาท เป็นเผือกขูดเส้นปรุงรสให้เค็มกลมกล่อมเผ็ดร้อนพริกไทยขาวกรุบกรอบถั่วลิสงผสมแป้งเล็กน้อยนำไปนึ่งให้เป็นก้อน ก่อนเสิร์ฟแค่นำไปทอดในกระทะให้มีความเกรียมอมน้ำตาลเล็กน้อยตรงเปลือกแต่ด้านในนุ่มละเอียดหอมมันเผือกคุณภาพดีอัดแน่นเกินราคาสุดๆ ส่วนกุยช่ายที่เราโทรมาจองเป็น "กุยช่ายกลมแดง (อี้ทวง)" 4 ไส้ไว้ก่อนเพราะกลัวหมดแต่วันนี้โชคดีที่ยังเหลือครบทุกไส้อยู่เลยสั่งมาเพิ่มเป็น "กุยช่าย" สูตรแป้งสีขาวปกติราคาชิ้นละ 10 บาทเท่ากันทั้ง 2 สีและไส้เหมือนกันทุกอย่าง เบื้องต้นที่เราได้อ่านในบทความประวัติการก่อตั้งร้านจุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือรอยจีบวงกลมเด่นชัดสวยงาม แป้งบางโปร่งใสจนสามารถเห็นไส้ด้านในได้อย่างคร่าวๆโดยไม่ต้องเสียเวลาทำสัญลักษณ์เพื่อแบ่งแยกให้ชัดเจนเหมือนร้านอื่นๆ อ้างอิงจากเจ้าของร้านที่เคยไปออกในรายการทีวีคือใช้เฉพาะแป้งมันกับแป้งข้าวเจ้าตามอัตราส่วนลับนวดและสัมผัสมือจึงจะรู้ว่าได้ที่ก่อนจะนำมาห่อไส้แน่นจุใจ ส่วนแต่ละชิ้นจะรสชาติเป็นอย่างไรนั้นผ่าดูด้านในแล้วชิมไปพร้อมกันเลยครับ
ชิ้นที่ 1 เป็น "กุยช่ายไส้ผัก" สูตรของที่ร้านนี้พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกต้นกระเทียมไม่มีกลิ่นฉุน/เหม็นเขียวเอามาคลุกกับเกลือและบีบน้ำส่วนเกินออกบางส่วนและปรุงรสให้เค็มหวานกลมกล่อมผัดในน้ำมันพอสุกเพื่อคงความกรุบกรอบ-ชุ่มฉ่ำตามธรรมชาติของของผักกุยช่ายเอาไว้เล็กน้อย ห่อเข้ากับแป้งสีขาวบางพิเศษสัมผัสนุ่มนวลเนียนสู้ฟันนิดๆคล้ายโมจิชวนไหลลื่นลงคอชวนฝันสุดๆ ชิ้นที่ 2 คือ "กุยช่ายไส้หน่อไม้" ทางร้านใช้แบบสดคุณภาพดีเคี้ยวกรุบกรอบอมหวานหั่นเป็นเต๋าเล็กๆผัดกับกุ้งฝอย ปรุงรสชาติให้เค็มกลมกล่อม-เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยขาวจัดจ้านโดนใจ
ชิ้นที่ 3 ก็คือ "กุยช่ายไส้มันแกว" นำหัวมันแกวมาขูดเป็นเส้นๆ-บีบน้ำส่วนเกินออกผัดกับกุ้งแห้งฝอยกระเทียมสดและพริกไทยขาวเพิ่มความเผ็ดร้อนและได้ความฉ่ำหวานธรรมชาติจากหัวมันแกว ชิ้นที่ 4 ก็คือ "กุยช่ายไส้เผือก" รสชาติเหมือนเผือกเปลือยทุกอย่างแค่ไม่ผสมเมล็ดถั่วลิสงลงไปเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบกับแป้งให้จับตัวเป็นก้อนๆปริมาณอัดแน่นทุกไส้เคี้ยวเต็มคำเหมือนกันหมดแต่เท่าที่สังเกตคือเผือกมักจะหมดก่อนเพราะเรามาถึงก็เหลือ 2 ชิ้นสุดท้ายในตู้แล้ว เนื่องจากทางร้านปั้นจำนวนจำกัดต่อวันถ้าอยากกินให้ครบทุกๆไส้ต้องรีบมาแต่เช้าสักหน่อยนะครับ
จานต่อไปใครชอบแบบกรอบๆหน่อยต้องหลงรัก "กุยช่ายแก้ผ้าทอด" เป็นก้อนทรงสี่เหลี่ยมอัดแน่นเต็มไปด้วยผักสีเขียวสดแล้วจี่พร้อมน้ำมันร้อนๆในกระทะจนผิวสัมผัสสีน้ำตาลทองพร้อมฟองอากาศขนาดเล็กฟูทั้งชิ้นอย่างทั่วถึง จิ้มลงในซอสซีอิ๊วดำสูตรพิเศษรสเปรี้ยวอมหวานสัมผัสเบาบางแทรกซึมซาบเข้าไปในเนื้อกุยช่ายทอดและนึ่งไม่มีกลิ่นเหม็นกากน้ำตาลแบบของราคาถูกช่วยชูความอร่อยของแป้ง-ไส้ได้เด่นชัดทานเพลินยิ่งขึ้น สุดท้ายไม่ได้ซื้อแต่มีลูกค้าคนอื่นสั่งไปไหว้ทางร้านเลยหยิบออกมาให้ถ่ายรูปก็คือ "กุยช่ายใบโพธิ์ (อั้งก้อก้วย) ขนาดใหญ่ยักษ์แบบนี้ขายราคาแค่ชิ้นละ 25 บาท มี 4 ไส้เหมือนชิ้นเล็กปกติและพิเศษกับไส้ข้าวเหนียวซึ่งต้องสั่งล่วงหน้า 1-2 วัน (เป็นอย่างต่ำ) ยิ่งเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญของจีนแนะนำว่าให้ออเดอร์ล่วงหน้าสัก 1 เดือน เพราะหมดเร็วจนบางทีผลิตไม่ไหวและต้องคอยติดตามที่หน้าเพจร้านบ่อยๆส่วนตัวคิดว่าของอร่อยคุณภาพดีราคาถูกใครๆก็อยากซื้อเป็นปกติครับผม
เมนูต่อไปเห็นว่าอยู่ในตู้นึ่งใกล้กับกุยช่ายและราคาไม่แพงเลยสั่งมาลองชิมอย่างละลูกก็คือ "ซาลาเปา" มี 3 ไส้ราคาลูกละ 19 บาทคือ 1. ซาลาเปาไส้หมูสับ เป็นหมูสับปรุงรสเนื้อเด้งหอมกลิ่นรากผักชี/กระเทียม/พริกไทย/ด้านบนท็อปปิ้งด้วยไข่แดงเค็มห่อในแป้งซาลาเปาสูตรโบราณเนื้อแน่นฟูคล้ายๆบัตเตอร์เค้ก-ไม่มีโพรงอากาศขนาดใหญ่เหมือนที่หยดแอมโมเนียแบบร้านสมัยใหม่ที่ต้องการให้พองอย่างรวดเร็วและมาตรฐานเหมือนกันทุกลูก 2. ซาลาเปาไส้หมูแดง สีไม่ค่อยเข้มแต่กลิ่นหอมบาร์บีคิวและเครื่องเทศจีนรสหวานเค็มกลมกล่อมเข้มข้นเข้ากับเนื้อแป้งแน่นๆได้เป็นอย่างดี 3. ซาลาเปาไส้ครีม สีแป้งมีความอมเหลืองรสหวานนำกว่าไส้อื่นๆส่วนไส้เป็นแบบครีมคัสตาร์ตเน้นไข่ไก่แดงเป็นหลักจึงเข้มข้นราวกับสังขยาร้านเก่าแก่โบราณแถวปักษ์ใต้ ปริมาณแป้งกับไส้ถือว่าทางร้านคำนวณมาได้ดีมีความสมดุลกันลงตัวทุกลูกจึงทานได้อร่อย แต่กระดาษที่ใช้รองแป้งแกะยากนิดหน่อยนอกนั้นถือว่าดีงามมากๆครับ
อีกชุดสีสวยงามเป็น "หมั่นโถว" หรือขนมปังนึ่งแบบจีนไม่มีไส้ราคาชิ้นละ 17 บาทรวม 3 เมนูก็คือ 1. หมั่นโถวมันม่วง 2. หมั่นโถวฟักทอง 3. หมั่นโถวน้ำตาลอ้อย ทุกลูกรสชาติเหมือนกันหมดคือหวานนุ่มสัมผัสเด้งหนึบสู้ฟันไว้ทานเล่นเฉยๆ (เหมือนขนมปังหวานของฝั่งยุโรป) แตกต่างกันที่กลิ่นเล็กน้อยเนื่องจากทางร้านใช้วัตถุดิบจริงๆไม่มีสีผสมอาหารเจือปนจึงมีความหอมมันของเนื้อฟักทอง/เนื้อมันม่วงและสีธรรมชาติจากน้ำตาลอ้อยแท้ ทำด้วยกรรมวิธีตำรับจีนโบราณหมักด้วยยีสต์ให้ขึ้นฟูละเอียดแน่นราวกับบัตเตอร์เค้กเหมาะกินคู่กับน้ำเต้าหู้สูตรเด็ดของทางร้านได้ดีสุดๆ นอกนั้นก็เป็นอาหารทานเล่นอื่นๆระหว่างรอจานหลักมาเสิร์ฟเริ่มจาก "เกี๊ยวกรอบทอด" เป็นแป้งเกี๊ยวห่อหมูเด้งปรุงรสแผ่นใหญ่ทอดกรอบ ทานคู่กับซอสหวานเผ็ดเหนียวข้นสุดฟิน 5 ชิ้นแบบนี้ราคาเพียง 30 บาทเท่านั้นครับ
เมนูต่อไปขายราคาไม่แพงแต่คุณภาพพรีเมี่ยมดีเกินคาดคือ "หอยจ๊อ" สอดไส้เนื้อปูแบบเน้นๆพันด้วยฟองเต้าหู้ทอดจนได้สีเหลืองทองกรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟ 8 ชิ้นใหญ่เต็มจานเพียง 65 บาท และอีกจากคือ "แฮกึ๋น" สอดไส้ด้วยกุ้งบดผสมเนื้อกุ้งสับชิ้นเล็กๆคลุกรากผักชี/กระเทียม/พริกไทยขาวและน้ำมันงาเนื้อเด้งกรุบกรอบห่อฟองเต้าหู้ทอดกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสบ๊วยเจี่ยสัมผัสเหนียวข้นรสหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นคล้ายกับดอกบ๊วยสดชื่นขึ้นจมูกช่วยลดความเลี่ยนทำให้ทานได้เรื่อยๆให้ปริมาณ 7 ชิ้นเต็มจานแบบนี้ขายแค่ 65 บาทราคาเท่ากับจานที่แล้วเลยครับ
เมนูต่อไปขายเฉพาะวันพุธแต่น้องพนักงานบอกว่าวัตถุดิบยังมีอยู่ก็เลยสั่งมาเป็น "ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ" เส้นหมี่ราคา 50 บาท ความประทับใจแรกเจอก็คือเครื่องแน่นเต็มชามสุดๆทั้ง ลูกชิ้นปลา/ลูกชิ้นปลารักบี้/ลูกชิ้นหมู/ลูกชิ้นกุ้ง/ลูกชิ้นแคะ/ฮือก๊วย/เต้าหู้ทอด/เลือดหมูก้อนและผักบุ้งจีนวัตถุดิบที่ใช้เนื้อเด้งสู้ฟันไม่มีกลิ่นเหม็นคาว พื้นฐานใช้น้ำซุปใสโครงไก่รสหวานกลมกล่อมผสมซอสเย็นตาโฟโบราณสีชมพูอ่อนเคล้ากระเทียมเจียวกลมกล่อมแบบโบราณสไตล์จีน อีกชามคือ "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู" เส้นหมี่น้ำใสราคา 50 บาทซึ่งมีขายทุกวัน โดยเครื่องจะน้อยกว่าเมนูแรกแต่ทางร้านก็เพิ่มปริมาณเส้นให้อีก เป็นเมนูสุดคลาสิคใส่แค่ลูกชิ้นหมู/ถั่วงอก/กระเทียมเจียว/โรยต้นหอมราดน้ำซุปใสเสิร์ฟร้อนๆรสหวานหอมซดคล่องคอทานได้ง่ายๆทุกคน อยากได้รสอะไรเพิ่มบนโต๊ะมีชุดเครื่องปรุงให้บริการครับ
อาหารตามสั่งอื่นๆทางร้านก็มีให้บริการแถมราคาไม่แพงเลยออเดอร์เป็น "ข้าวราดกะเพราหมูกรอบไข่ดาว" 70 บาท ก่อนอื่นเริ่มต้นจากข้าวไม่ได้นุ่มหอมคุณภาพดีนักเพราะขายค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับปริมาณหมูกรอบที่ได้ยังไงก็คุ้ม เป็นหมูกรอบคล้ายๆกับสามชั้นทอดเอามาผัดซอสใส่พริกสด-กระเทียมและใบกะเพราหอมควันกระทะแบบจีนรสชาติเค็มหวานกลางๆ ถ้าต้องการความเข้มข้น-จี๊ดจ๊าดมากขึ้นให้ราดพริกน้ำปลาลงไปเพิ่มได้ตามใจ ส่วนไข่ดาวที่ร้านทอดมาสไตล์ไทยตรงขอบนอกกรอบแต่ไข่แดงไม่สุก (ใครไม่ชอบก็สามารถบอกให้แม่ครัวช่วยทอดสุกๆเลยก็ได้) โดยรวมความอร่อยอยู่ในระดับกลางๆแต่ถ้าเทียบกับปริมาณแล้วก็ถือว่าดีเลยครับ จานต่อไปหากินตามร้านตามสั่งทั่วไปค่อนข้างยากแต่ที่นี่มีเสิร์ฟคือ "ปลาผัดคื่นฉ่ายราดข้าว" ราคา 70 บาท ทางร้านใช้เนื้อปลากะพงล้วนๆชุบแป้งทอดกรอบผัดกับยอดคื่นฉ่ายและเพิ่มสีแดงสดสวยงามด้วยพริกชี้ฟ้า มาพร้อมข้าวสวยและพริกน้ำปลาผัดมามีกลิ่นหอมกระทะสไตล์ภัตตาคารจีนเช่นเคย สั่งซุปร้อนๆมาแก้เผ็ดอีกชามเป็นเมนูประจำวันพฤหัสบดีก็คือ "ซุปซี่โครงหมูอบ" ปกติต้องมาพร้อมข้าวแต่เราสั่งเป็นกับทางร้านคิดราคาแค่ 50 บาท มันก็คือซี่โครงหมูตุ๋นยาจีนรสเค็มนำหน่อยเพราะเอาไว้กินกับข้าวสวยกระดูกหมูตุ๋นมาเปื่อยยุ่ยใส่เห็ดหอมถึงเครื่องสมุนไพรซดร้อนๆโล่งคอสะใจดีมากครับผม
ติดใจลูกชิ้นแคะในเย็นตาโฟชามเมื่อกี้เลยสั่งเป็นเมนูทานเล่นแยกมาอีกนั่นก็คือ "ลูกชิ้นแคะลวกจิ้มพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด" 10 ลูก เต็มจานแบบนี้ราคาแค่ 45 บาท ทางร้านผสมมาให้ทั้งลูกชิ้นแคะเนื้อล้วนผสมเต้าหู้ทอดและลูกชิ้นกุ้งทอดกรอบโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและผักชีซอย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรตำมือรสชาติหวาน/เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดได้สัมผัสเคี้ยวของพริกสด-กระเทียมเป็นชิ้นโขลกหยาบๆเคลือบทั่วทั้งลูกชิ้นก่อนเข้าปากเผ็ดแซ่บสะใจสุดๆ มาถึงร้าน "ป๋าป้า เตี้ยมซิม" แล้วอีก 1 เมนูดังที่ออกรายการทีวีอีกอย่างคือ "น้ำเต้าหู้" ราคาแก้วละ 25 บาท ปรุงมาหวานใสๆพร้อมดื่มหอมมันถั่วเหลืองแท้คุณภาพดีไม่เหม็นฉุนหรือต้มนานเกินจนมีกลิ่นไหม้จึงดื่มง่ายแช่ในตู้เย็นฉ่ำๆสดชื่นช่วยลดความเผ็ดร้อนจากจานที่แล้วได้ดีสุดๆสมกับเป็น 1 เมนูแนะนำที่ใครมาก็ต้องลองครับ และถ้าเราไม่สั่งเครื่องดื่มที่ร้านก็มี "ชาจีนเย็น" ใส่แก้วพลาสติกขนาดเล็กพร้อมน้ำแข็งเกล็ดกรุบกรอบให้เติมได้ฟรี ส่วนเครื่องปรุงบนโต๊ะมีทั้งพริกป่น/น้ำตาลทราย/พริกน้ำส้ม/น้ำส้มสายชู/น้ำปลา/พริกไทยขาว พร้อมช้อน/ส้อมและตะเกียบถูกเก็บภายในถุงแบ่งเป็นชุดสะอาดใช้ของดีเมื่อเทียบกับราคา เริ่มอิ่มแล้วแต่ของหวานน่าสนใจมีเยอะมากเผื่อท้องเอาไว้ด้วยครับผม
อย่างแรกสั่งมาเป็น "บัวลอยต้มน้ำขิง" เสิร์ฟมาในภาชนะดูดีระดับภัตตาคารจีนชั้นนำแบบนี้ราคาแค่ชามละ 30 บาท บัวลอยทำจากแป้งข้าวเหนียวเคี้ยวหนึบเปลือกบางห่อไส้งาดำคั่วบดกับน้ำตาลทรายแดงรสชาติหวานมันเนียนละเอียดชวนไหลลื่น ไม่มีเกล็ดน้ำตาลเม็ดใหญ่หรืองาดำบดหยาบที่กลืนแล้วรู้สึกชวนฝืดเคืองคอเหมือนกับร้านอื่นๆ ส่วนน้ำขิงคัดเลือกเฉพาะหัวที่ไม่แก่หรืออ่อนมากจนเกินไปจึงให้ความหอม/เผ็ดกำลังดีแต่ไม่หวาน มาพร้อมถ้วยเล็กบรรจุน้ำตาลทรายแดงจากธรรมชาติไว้ละลายเพื่อเพิ่มรสหวานกลมกล่อมตามใจได้อย่างลงตัวดีเกินราคามากๆครับ
ของหวานถัดไปเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าถ้วยใหญ่มากคือ "ลูกเดือยต้มน้ำตาล" ราคา 20 บาท เป็นลูกเดือยที่ทางร้านเอาไปแช่น้ำค้างคืนแล้วต้มให้นุ่มใสจนซุปมีความเหนียวข้นนิดๆราวกับข้าวต้ม ปรุงรสให้เป็นของหวานด้วยน้ำตาลเกล็ดสีคาราเมลเสิร์ฟในชามพิเศษที่สามารถรักษาอุณหภูมิให้อุ่นสบายท้องจนถึงคำสุดท้าย เมนูต่อไปถือเป็นฝันร้ายในวัยเด็กของมื้ออาหารกลางวันโรงเรียนหลายๆแห่งแต่พอได้กินร้านนี้แล้วบอกเลยว่าต้องเปลี่ยนใจใหม่ก็คือ "ถั่วเขียวต้มโอวทิ้ง" หรือถั่วเขียวต้มน้ำตาลทรายแดงธรรมชาติ ราคา 20 บาท ความแตกต่างก็คือเขาแช่น้ำให้เมล็ดถั่วงอกต้นอ่อนเล็กน้อยเพื่อคลายกลิ่นเหม็นสาบเฉพาะตัวและสัมผัสตอนกลืนลงคอที่เหมือนเคี้ยวทรายออกไป แล้วน้ำตาลก็ใช้เป็นบราวน์ชูการ์ที่มีกลิ่นหอมซึมซับเข้าไปในเมล็ดถั่วเขียวอย่างชุ่มฉ่ำแตกน้ำหวานในปาก หากยังไม่พอก็เพิ่มน้ำตาลทรายแดงลงไปผสมเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้อีก 1 ถ้วยเล็กซดร้อนๆในชามพิเศษอุ่นจนถึงคำสุดท้าย
มื้อนี้เรามาทานกัน 4 คน สั่งไป 34 รายการจ่ายแค่ 947 บาท (ไม่บวก Vat. กับ Service Charge) โดยรวมไม่ใช่แค่ร้านขายขนมกุยช่ายอร่อยแป้งเทพไส้แน่นระดับตำนานธรรมดา เพราะมีทั้งอาหารจีน/ตามสั่ง/ก๋วยเตี๋ยว/เมนูทานเล่นพร้อมเครื่องดื่มขนมหวานให้ลูกค้าได้เปลี่ยนเรื่อยๆไม่มีเบื่อตลอด 7 วัน หากไม่สะดวกมาหน้าร้านมีบริการเดลิเวอรี่กับจัดส่งแบบแช่แข็งทั่วประเทศไทยด่วนใส่กล่องโฟมถึงหน้าบ้านใน 2 วันด้วย อร่อยครบรวดเร็วแถมราคาเป็นมิตรแบบนี้ก็รับคะแนนไป 5 ดาวเต็มเลยครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 1359/4 โครงการ T-biz home ถนนเทอดไท แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. ปิดร้านทุกวันจันทร์ (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 088-882-2866
Facebook : www.facebook.com/PapaTiamSim
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments