ถ้าหากอยากทานเนื้อย่างยากินิคุเกรดพรีเมี่ยมสมัยนี้หลายร้านมักจะแข่งกันที่คุณภาพของเนื้อวัวเช่นนำเข้าจากญี่ปุ่นหรือผสมกับสายเลือดต่างๆทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดโดนใจ แต่ร้านที่เราจะพามาในวันนี้เหนือขึ้นไปอีกขั้นเพราะเขาเอาเมนูชาบูๆและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นมาผ่านความร้อนบนเตาถ่านแทนการลวกลงหม้อใส่น้ำซุปเดือดๆอย่างที่เราคุ้นเคย โดยใช้แต่เนื้อวัว Wagyu Yukifuri สายพันธุ์พิเศษจากเมืองโอบานาซาวะจังหวัดยามากาตะประเทศญี่ปุ่นลายไขมันอยู่ในระดับ A5 จุดเด่นของเนื้อชนิดนี้คือไขมันคุณภาพสูงรสชาติเข้มข้นส่งออกเฉพาะเพศเมียอายุ 32 เดือนขึ้นไปในประเทศญี่ปุ่นกับไทยเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเนื้อวัวที่จัดอยู่ในระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริงจึงต้องทำใจเรื่องราคามาก่อนมาทานที่ร้านนี้ ส่วนจุดที่ตั้งของร้านก็ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม Hotel Nikko Bangkok ภายในโครงการที่ชื่อ Ginza Thonglor (กินซ่าทองหล่อ) ซึ่งถ้าไม่ตั้งใจมาทานจริงๆก็ไม่ทราบเลยว่าตรงนี้มีร้านอาหารอยู่อีกมากมายทั้งไทย-จีนและญี่ปุ่นบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาไร้คนเดินเล่นแต่ก็พอมีคนมาทานข้าวตามร้านต่างๆกันบ้าง โดยร้านที่เราจะเข้ามารีวิวในวันนี้ชื่อว่า "Sabu Yakiniku" เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปีแล้วในเขตคันดะ/จังหวัดโตเกียวประเทศญี่ปุ่นและก็มาเปิดอีกสาขาที่ประเทศไทย เราได้ลายแทงความอร่อยมาจากในกลุ่ม "ชมรมคนรักเนื้อ" และหาข้อมูลตามรีวิวเก่าจากสำนักต่างๆคะแนนรวมอยู่ที่ 3.8-4.5 เต็ม 5 ดาว เลยนัดกับคุณแฟนเพราะเงินออกกลางเดือนพอดีมาทานด้วยกันย้อนหลังวันวาเลนไทน์ วิธีการเดินทางถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวปักหมุดมาที่โรงแรมสามารถจอดรถได้ฟรี 2 ชั่วโมงเมื่อมีประทับตราร้าน หากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง BTS ทองหล่อแล้วเดินเท้ามาประมาณ 250 เมตรก็จะถึงที่ร้านแล้วครับ ใครจะมาทานยังไงรบกวนวางแผนเรื่องเวลาดีๆเพราะเขาเปิด 2 ช่วงเวลาคือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. หน้าร้านมีน้องวัวมาสคอตถือถาดพร้อมป้ายไฟเห็นเด่นชัดแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้านแน่นอนครับ
ก่อนเดินเข้าไปในร้านมีเมนูวางอยู่ด้านหน้าใกล้ๆกับมาสคอตน้องวัวแบ่งออกเป็น 3 เล่มใหญ่เริ่มจากชุดอาหารกลางวันราคาเริ่มต้นที่ 260-780 บาท ประกอบไปด้วยชุดเนื้อย่าง/ข้าวหน้าดงบุรีพร้อมทานสไตล์ญี่ปุ่นและชุดซุปกับข้าวพร้อมข้าวสวยปริมาณสุดคุ้มมีให้เลือกทั้งหมด 13 รายการ ฟรีไอศครีม 1 ถ้วยต่อหนึ่งชุดได้ทานทั้งเมนูคาว/หวานครบจบในชุดเดียว ให้สั่งเฉพาะช่วงกลางวันเวลา 11.00-14.00 น.เท่านั้นและราคาอาหารยังไม่รวม Vat.7% กับ Service Charge อีก 10% เล่มต่อไปบอกถึงหมวดของเมนูต่างๆที่ขายในร้านทั้งยากิชาบู/สุกี้ยากี้/เนื้อหมักกับซอส/เนื้อหมักกับเกลือ/ซุปไข่ทามาโกะ/บะหมี่จาจาเมงและชุดผักรวม หน้าหลังบ่งบอกส่วนของเนื้อวัววากิวที่เสิร์ฟในร้านมีทั้งส่วนไขมันแทรกและไขมันน้อยราคาเริ่มต้นที่ 580-980 บาท และชุดเนื้อวากิว A5 ที่เหมือนได้ทานวัวทั้งตัวราคาจานละ 2,480 บาท ดูจากปริมาณในรูปถือว่าให้เยอะสมราคาดีเมื่อเทียบกับเนื้อวากิวทั่วไปที่แล่ขายกันตามซุปเปอร์มาร์เก็ต แถมเป็นเนื้อวัวชนิดพิเศษที่หาทานได้เฉพาะร้านนี้เดี๋ยวสั่งมาชิมว่าของจริงจะเยอะเหมือนในรูปไหม
เล่มสุดท้ายเป็นเมนูหลักที่รวมอาหารทั้งหมดของทางร้านในราคาปกติ โดยหน้าแรกนั้นเป็นชุดเนื้อวัวรวมแต่เพิ่มจานใหญ่มาอีกรายการราคา 2,980 บาท (มีส่วนฮารามิกับลิ้นวัวเพิ่มเข้ามาในชุด) เลือกได้ว่าจะทานเป็นหมักเกลือ/หมักซอส หน้าต่อไปเป็นเนื้อวัววากิว "Yukifuri" แบบขายแยกส่วนและปรุงรสพิเศษตามสูตรของทางร้าน เริ่มจากหั่นแบบสเต็กชิ้นละ 2,200 บาท/ยากิสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นชิ้นละ 750 บาท/ยากิชาบูหรือเนื้อชาบูย่างเตาถ่านชุดละ 700 บาท/โทคุโจวคารูบิพรีเมี่ยม-โทคุโจวโรสุบิพรีเมี่ยมจานละ 980 บาท นอกจากนี้ยังมีเนื้อคารูบิ-โรสุ-ฮารามิแบบยิบย่อยราคาเริ่มต้นที่ 380-780 บาท/ลิ้นวัวแบบบาง-หนาราคา 320-450 บาท หมูคุโรบูตะสันคอสไลด์/สเต็กราคา 190-260 บาท/เบคอนหมู-สะโพกไก่-คอหมู-ไส้ใหญ่วัว-ผ้าขี้ริ้ววัวราคาจานละ 180-280 บาท หมวดต่อไปเป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยมีทั้งซูชิเนื้อลนไฟ/ยำเนื้อดิบสไตล์ญี่ปุ่น/ยำเนื้อดิบสไตล์เกาหลีราคาจานละ 400-520 บาท หมูสามชั้นต้มทานกับกิมจิแบบเกาหลี/แซลมอนต้มซอสญี่ปุ่นราคา 190-260 บาท สลัดและเครื่องเคียงต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 80-200 บาท ซุป-บะหมี่จัมปงและข้าวต้มเสิร์ฟในหม้อร้อนราคาเริ่มต้นที่ 120-340 บาท ถ้าไม่อยากปิ้งย่างให้เหม็นหัวก็มีข้าวหน้าดงบุริราคาเริ่มต้นที่ 260-380 บาท ข้าวสวยญี่ปุ่นและข้าวผัดกระเทียมราคา 50-100 บาท ไอศครีมลูกละ 80 บาท เครื่องดื่มราคาขวดละ 50-60 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เริ่มที่ 120 บาท โดยรวมถือว่าเป็นราคามาตรฐานของภัตตาคารเนื้อย่างแบบ A La Carte ในย่านนี้ แถมยังเสิร์ฟเนื้อวัวชนิดที่ไม่มีขายตามร้านทั่วไปอีกด้วยทำให้อยากทานมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ว่าแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านเลยครับอย่าให้เสียเวลา
บรรยากาศภายในร้านดูมีความเป็นญี่ปุ่นใช้ลายไม้สลับกับหินอ่อนสีดำดูหรูหราเพิ่มความสบายตาด้วยดวงไฟสีเหลืองนวลทำให้รู้สึกเงียบสงบเหมาะแก่การนั่งย่างเนื้อและลิ้มรสชาติความพิเศษของ Wagyu Yukifuri ไปเรื่อยๆ มาถึงน้องพนักงานก็คอยต้อนรับเป็นอย่างดีสามารถเลือกได้เลยว่าจะนั่งเป็นโต๊ะปกติหรือมุมส่วนตัวไม้ระแนงกั้นนั่งห้อยขาสไตล์ญี่ปุ่น วางจาน-ตะเกียบและผ้าเย็นให้เช็ดมือเช็ดหน้าพอสดชื่นส่วนเครื่องดื่มที่ร้านก็มีชาเขียวแบบรีฟีลราคาคนละ 60 บาทรสชาติไม่หวานแต่หอมสดชื่นกลิ่นชาเขียว จัดการสั่งอาหารให้เรียบร้อยแล้วรอมาเสิร์ฟครับผม
จานแรกเป็นเมนูที่เราตั้งใจจะมาทานร้านนี้นั่นก็คือ "ชุดเนื้อ Yukifuri Wagyu A5 รวม" เป็นเมนูที่ร้านแนะนำราคา 2,480 บาท ประกอบไปด้วยโทคุโจวโรสุ/โจวโรสุ/นามิโรสุเป็นเนื้อโรสช่วงคอจนถึงไหล่ของวัวชั้นไขมันแทรกพอประมาณต่างกันที่ระดับของเนื้อวัวที่ทางร้านแยกออกเป็น 3 เกรดคือ A5 Wagyu ธรรมดา/Deluxe และสูงสุด Super Deluxe สังเกตได้จากเนื้อที่มีสีแดงเข้มและเส้นของไขมันที่มีขนาดใหญ่-เล็กไม่เท่ากัน ส่วนรสชาติกับความหอมนั้นชิมคำแรกรู้เลยว่าเป็นวัวญี่ปุ่นแต่รสชาติเข้มข้นกว่าเนื้อวัวขนดำที่เคยทานไขมันเยอะแต่ไม่เลี่ยนทานง่าย อีก 2 ส่วนในจานนั่นก็คือ โทคุโจวคารูบิและโจวคารูบิเป็นเนื้อส่วนท้อง-ซี่โครงที่มีไขมันแทรกเยอะกว่าทำให้ได้ความนวลละมุนเวลาเคี้ยวรสชาติเนื้ออ่อนกว่าส่วนโรสุเล็กน้อย วิธีการทานทางร้านแนะนำให้ย่างพอสุกสีอมชมพูๆปาดด้วยวาซาบิจิ้มโชยุแบบปลาดิบทำให้ได้รสเค็ม-หอมกว่าการจิ้มเกลือปกติฉุนวาซาบิรสหวาน-เผ็ดอีกนิดทำให้ทานได้เรื่อยๆหรือจะบีบเลมอนที่ทางร้านแถมมาในชุดลงบนเนื้อวัวที่ย่างเสร็จแล้วก็เปรี้ยวหอมอร่อยไปอีกแบบฟินห์สุดๆเลยครับ
เมนูต่อไปไม่เคยเห็นเสิร์ฟที่ร้านปิ้งย่างที่อื่นมาก่อนและเป็น Signature ของที่ร้านเลยสั่งมาทานคือ "เนื้อวากิวสไลด์สุกี้" 1 แผ่นใหญ่เต็มจานแบบนี้ราคา 750 บาท ดูจากชิ้นเนื้อแล้วน่าจะเป็นส่วนสันนอกติดมันตรงขอบด้านในแทรกไขมันละเอียดเพราะเป็นเนื้อวัว Yukifuri Wagyu A5 มาพร้อมกับซอสสุกี้เข้มข้นพิเศษน้องพนักงานแนะนำว่าให้ราดลงบนเนื้อให้ทั่วและทิ้งไว้ให้ซอสซึมเข้าเนื้อประมาณ 10-15 นาทีแล้วค่อยๆย่างให้พอสุกจิ้มไข่ดิบทานแบบสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น ระหว่างที่รอซอสหมักเข้าเนื้อชุดเครื่องเคียงก็มาเสิร์ฟเป็น "ยำผักรวมน้ำมันงา" ราคา 160 บาท ในชุดประกอบด้วย แครอทเส้นผัดน้ำมันงามาสุกกำลังดีรสชาติเปรี้ยวอมหวานกรุบกรอบไร้กลิ่นเหม็นทานแบบกิมจิเคี้ยวเพลิน/ถั่วงอกลวกคลุกน้ำมันงารสเค็ม-มันน้ำในผักแตกไหลในปากเวลาเคี้ยว/เห็ดเข็มทองผัดน้ำมันงาใส่พริกรสชาติหวาน-เผ็ดเคี้ยวนุ่มๆกรุบกรอบตรงแกนกลางนิดๆอร่อยแบบเกาหลีและผักโขมสดต้มคลุกน้ำมันงาก้านเคี้ยวกรุบกรอบเค็ม-หวานรสเผ็ดนิดๆเรียกได้ว่าอร่อยทั้ง 4 อย่าง ทานกับเนื้อหรือทานเล่นระหว่างรอเนื้อย่างสุกก็ดีงาม
เมนูต่อไปก็ถือเป็น Signature ที่ไม่เคยเห็นในร้านอื่นนั่นคือ "เนื้อวากิวยากิชาบู" ราคา 700 บาท เสิร์ฟมาเป็น Yukifuri Wagyu A5 ที่เส้นไขมันเล็กคาดว่าน่าจะเป็นเกรดธรรมดา พับมาเป็นชิ้นสวยงามราดด้วยน้ำจิ้มพอนสึรสเปรี้ยวเค็มท๊อบปิ้งด้วยไช้เท้าขูดผสมพริกป่นสีส้มและต้นหอมแบบเดียวกับร้านชาบูชาบูที่เราคุ้นเคย วิธีการทานก็คือแผ่เนื้อย่างลงบนเตาถ่านให้ด้านที่มีหัวไชเท้าอยู่ด้านบนและย่างเพียงด้านเดียวจนสุกสีชมพูแล้วจับม้วนแบบโรลเป็นอันพร้อมทาน ถ้าให้หลับตาแล้วมีคนเอาเนื้อชิ้นนี้มายัดเข้าปากก็นึกว่าอยู่ร้านชาบูแต่ความแตกต่างก็คือความกระชับเด้งหอมถ่านและซอสหมักเข้าเนื้อมากกว่าทำให้ได้ความเข้มข้นโดนใจในทุกๆคำ เรียกได้ว่าถ้าอยากทานเมนูนี้ต้องมาที่ร้านนี้เท่านั้นครับ ระหว่างกำลังฟินห์กับเนื้อชาบูย่างข้าวสวยญี่ปุ่นกับข้าวผัดกระเทียมก็มาเสิร์ฟและแฟนผมขอน้ำจิ้มยากินิคุของทางร้าน พร้อมกับพริกสด-กระเทียมสับมาไว้ทานคู่กับเนื้อย่างจานต่อไปที่กำลังจะมาเสิร์ฟที่โต๊ะครับ
เนื้อรวมจานแรกสั่งมาเป็นแบบธรรมดาทานกับโชยุ-วาซาบิแต่อยากทานแบบหมักเกลือเลยเลือกมาอีกส่วนคือ "นามิโรสุหมักเกลือ" เป็น Deluxe A5 Wagyu ราคา 580 บาท เนื้อโรสแทรกไขมันละเอียดสไลด์ชิ้นหนาหมักด้วยเกลือ-พริกไทยให้รสเค็มอ่อนๆที่ร้านแนะนำว่าให้ย่างพอสุกแล้วทานจะได้รับรสเนื้อ Wagyu Yukifuri แบบเข้มข้น 100% ซึ่งก็อร่อยอย่างที่เขาว่าแต่ถ้าต้องการความอูมามิเพิ่มยิ่งขึ้นให้ทานคู่กับ "ข้าวผัดกระเทียม" ราคา 100 บาท เป็นกระเทียมเจียวบดผัดกับข้าวสวยกลิ่นหอมเนยบางๆถ้าทานเปล่าๆจะค่อนข้างจืดแต่พอมาบวกกับกลิ่นเนื้อวัวชั้นดีทำให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น กลายเป็นว่ารสเค็มกับไขมันวัวช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับข้าวผัดที่ทางร้านคิดมาเป็นอย่างดี
เมนูต่อไปก็คือ "ลิ้นวัวสไลด์บาง" ราคา 320 บาท เป็นลิ้นของ Wagyu Yukifuri แทรกไขมันระดับ A5 จนได้สีสวยอมชมพู วิธีการทานก็คือย่างบนถ่านแปปเดียวพอสุกก็จะได้ลิ้นวัวย่างหอมๆเคี้ยวกรุบกรอบมีกลิ่นของมันเนื้อขึ้นจมูกตัดความเลี่ยนด้วยเลมอนรสเปรี้ยวสดชื่นทำให้ทานได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด หรือจะจิ้มกับซอสยากินิคุสูตรของที่ร้านรสหวานเค็มหอมกลิ่นขิงผสมน้ำมันงาอ่อนๆรสชาติไม่รุนแรงหรือเข้มข้นแบบน้ำจิ้มเนื้อย่างตามร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไปทำให้ได้รับรสชาติของเนื้อชั้นดีแบบเต็มที่ในทุกๆคำ เพิ่มความอร่อยจนถึงจุดสูงสุดด้วยข้าวสวยญี่ปุ่นหอมนุ่มสัมผัสเหนียวหนึบไขมันเนื้อกับซอสยากิคิคุไหลซึมผสมกับข้าวเพิ่มกระเทียม-พริกสดก็จะได้ความแซ่บแบบไทยดีมากครับ
เนื้อสำหรับย่างจานสุดท้ายสั่งหมูมาลองชิมเป็น "สันคอหมูคุโรบูตะ" ราคา 190 บาท เป็นสันคอหมูสไลด์บางๆหมักกับน้ำมันงาผสมกับซอสเผ็ดหวานเนื้อนุ่มเด้งแทรกไขมันหอมรสชาติเข้มข้นทานเปล่าๆไม่ต้องจิ้มซอสใดทั้งสิ้นก็อร่อย เวลาผ่านไปวนกลับมาจานที่ 2 เนื้อสุกี้ยากี้ที่หมักไว้ซอสซึมเข้าเนื้อก็จับย่างพอสุก (เพราะถ้าย่างนานๆซอสจะไหม้) ตัดแบ่งทานกับแฟนคนละครึ่งชิ้นจิ้มลงในไข่แดงไก่ที่ทางร้านไม่ได้บอกว่าใช้ไข่จากไหนแต่รสชาติมันเข้มข้นกว่าปกติ เนื้อวัว Yukifuri Wagyu นุ่มแทรกไขมันละเอียดระดับ A5 หวานซอสสุกี้รสหวานหอมกลิ่นโชยุเข้มข้นตัดให้นุ่มนวลลงด้วยไข่แดงไก่อร่อยหวานมันโดนใจสุดๆครับ เนื้อย่างเต็มไปด้วยไขมันทานนานๆจะเริ่มเลี่ยนเลยสั่งสลัดมาทานคู่กันอีกเมนูก็คือ "สลัดสาหร่ายวากาเมะ" ราคา 120 บาท เป็นสลัดผักรวมสดกรอบท๊อบปิ้งด้วยสาหร่ายวากาเมะราดด้วยน้ำสลัดมิโสะรสหวาน-มันหอมกลิ่นงาขาวทานแล้วสดชื่นช่วยทำให้การทานเนื้อย่างอร่อยไม่มีสะดุดครับ
ปิดท้ายด้วยซุปร้อนๆคนละถ้วยแฟนผมสั่งเป็น "ซุปหางวัวต้มรสเผ็ด" ราคา 300 บาท เนื้อหางวัวต้มสุกคัดมาเฉพาะเนื้อต้มลงในซุปรสเผ็ด-เค็มหวานรสผักอ่อนๆใส่ลงในหม้อหินร้อนพร้อมเสิร์ฟอร่อยแซ่บโดนใจ ส่วนผมสั่งน้ำซุปใสรสชาติเบาๆอย่าง "ซุปไข่" ราคา 120 บาท เบสพื้นฐานเป็นคอมบุใส่คัตสึโอะรสเค็มหอมอ่อนๆใส่ไข่ไก่ตีให้เป็นเนื้อเดียวกันค่อยๆเทลงในซุปให้เป็นเส้นเล็กนุ่มฟูท๊อบปิ้งด้วยต้นหอมซดร้อนๆละมุนไหลลื่นลงคออุ่นท้องดีมากครับ
อิ่มแล้วก็ได้เวลาเรียกน้องพนักงานมาคิดเงินวันนี้มาทานกัน 2 คนสั่งไปรวมแล้วกว่า 14 รายการคิดเป็นเงินทั้งหมด 5,990 บาท มี Vat. อีก 7% และมี Service Charge อีก 10% เท่ากับว่ามื้อนี้เราจ่ายไป 7,051 บาท ถือว่าราคาแรงแต่ถ้าเทียบกับเนื้อวากิว A5 ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตกับปริมาณที่ได้ในแต่ละจานก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อแถมยังเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์พิเศษจากเมืองโอบานาซาวะ-จังหวัดยามากาตะของญี่ปุ่นปรุงรสเสริมให้รสชาติดีกับมีชาบูบนเตาย่างไม่เหมือนใครก็รับคะแนนไป 5ดาวครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : โครงการ Ginza Thonglor (กินซ่าทองหล่อ) โรงแรม Hotel Nikko Bangkok ชั้น 3 เลขที่ 27 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
เปิดให้บริการทุกวัน 2 ช่วงเวลาคือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. โทร. 082-722-7888
Facebook : https://www.facebook.com/SABU.YAKINIKU
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments