ร้าน Salt // Pepper ผมเคยทานมาก่อนตอนที่จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์กับ Hungry Hub ที่ Siam Paragon แต่วันนี้พิเศษครับมาลองอีกสาขาหนึ่งที่ศูนย์การค้า Central World เป็นรูปแบบร้านอาหารเต็มรูปแบบ (ที่สาขา Paragon เหมือนนั่งในสวนอาหารมากกว่า) วันนี้มาทานในแบบ A La Carte ครับ ลองดูซิว่ารสชาติจะต่างกับแบบบุฟเฟ่ต์ที่เคยทานมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ( ตอนนี้ที่ร้านยังจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อยู่นะครับ ราคาเริ่มต้นคนละ 750 บาท และพิเศษทานสเต็กได้แบบไม่จำกัด ทานได้ไม่อั้นตลอด 2 ชม. ราคาคนละ 1,350 บาทครับ ใครรู้ตัวว่าทานจุแน่นอน สามารถจองก่อนเข้าใช้บริการที่ร้าน และดูเมนูที่เสิร์ฟต่างๆได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/2H7v3Xx )
ร้าน Salt // Pepper สาขา Central World ตั้งอยู่บริเวณชั้น 7 (ชั้นเดียวกับโรงหนัง) ตั้งอยู่จุดที่มีร้านอาหารเยอะๆนั่นแหละครับ เป็นร้านอาหารยุโรปที่มีการนำอาหารไทยลงไปฟิวชั่น ให้เกิดเป็นอาหารจานใหม่ ที่มีรสชาติถูกปากคนไทยมากขึ้น เอาจริงๆแว๊บแรกที่นึกถึงชื่อร้านนี้ภาพสเต็กลอยมาในหัวก่อน แต่ที่ร้านมีเมนูสเต็กในร้านอยู่ไม่กี่อย่างเอง ส่วน Signature ที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักก็คือ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ที่ทางร้านเคลมว่ายอดขายอันดับ 1* เอาเป็นว่าตอนนี้มาถึงหน้าร้านแล้ว หาที่นั่งกันก่อนครับ วันนี้ทางร้านได้จัดอาหารมาให้แล้ว เดี๋ยวมาดูว่ามีอะไรบ้าง?
เริ่มต้นด้วย 2 เมนูแรก "เมลอนดอท" ราคาแก้วละ 100 บาท เป็นโซดาผสมกับไซรัปรสเมลอนหอมหวาน กับเม็ดไข่มุกสอดไส้รสเลอน เวลาเคี้ยวระเบิดในปากซ่า หวานอร่อยดีครับ แต่ต้องผสมให้เข้ากันก่อนนะครับ ไม่งั้นหวานเจี๊ยบเลยล่ะ "ซอลเปปเปอร์ซัมเมอร์เบอรี่" แก้วละ 120 บาท ในเล่มเมนูเขียนว่า ใส่สตรอเบอรี่ ราสเบอรี่ บลูเบอรี่ แก้วมังกร และกล้วย แต่พอทานจริงๆแล้วแทบจะไม่รู้สึกเลย เหมือนทานน้ำสตรอเบอรี่ผสมไซรัปมินท์เย็นๆ สดชื่น ไม่แน่ใจว่าใส่อัตราส่วนผลไม้เท่าไหร่บ้าง แต่หอมสตรอเบอรี่หวานเย็นในปาก อร่อยดีครับ
เมนูอาหารคาวจานแรกมาแล้วครับ "มันฝรั่งทอดกับซอส 8 ชนิด" ราคา 200 บาท ในตะกร้ามันฝรั่งทอดประกอบด้วยมันทอดรูปทรงต่างๆ 4 แบบ คลุกผงปรุงรสเล็กน้อย ไว้ทานกับซอส 8 อย่าง ซอสพริกไทยดำ ซอสส้ม มายองเนสซีฟู๊ด ซอสมะเขือเทศ สลัดครีม เทาซันไอซ์แลนด์ เพสโตมายองเนส และวาซาบิมาโย เปลี่ยนรสชาติและสัมผัสของมันฝรั่งแต่ละรูปแบบไปเรื่อยๆ อร่อยเพลินดีครับ เหมาะกับการนั่งคุยกับเพื่อนแล้วทานไปเรื่อยๆ แปปเดียวมันฝรั่งหมด ซอสเหลือเพียบเลย น่าจะมี Add on ราคาพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย จะได้ทานซอสจนหมด ถ้าสั่งชุดใหม่มาก็ทานซอสไม่หมดอีก รู้สึกเสียดายซอสหน่อยๆครับ ที่ชอบสุดมายองเนสซีฟู๊ดแซ่บนวลดีครับ ชอบมาก!
เมนูขายดีของที่ร้าน "ซี่โครงหมูบาร์บีคิว" ราคา 550 บาท ได้ซี่โครง 7 ชิ้น พร้อมโควสลอว์ ซอสมะเขือเทศ มัสตาร์ต ซอสบาร์บีคิว และมันทอดแบบเกลียวอีก 1 ที่ ในเมนูบอกว่า "ซี่โครงหมูที่นี่ใช้วิธีการ Sous vide นานถึง 48 ชั่วโมง จนเนื้อล่อนจากกระดูก หอมกลิ่นรมควัน" ก็ตามที่เขาเขียนนั่นแหละครับ เนื้อหมูด้านในสุกแบบชมพู Perfect ตามแบบฉบับ Sous vide แต่เนื้อไม่ได้ลอกล่อนจนไม่ต้องออกแรงเคี้ยวแบบร้าน EST.33 นะครับ ต้องใช้ฟันกัดออกแรงนิดหน่อย แต่เอ็นรอบๆกระดูกล่อนออกขาวสะอาดตามคำโฆษณา เหมาะสำหรับคนที่อยากทานซี่โครงหมูบาร์บีคิวที่มีสัมผัสการเคี้ยวหน่อยๆ ร้านนี้ตอบโจทย์มากกว่าครับ ถ้าเอาแบบเนื้อล่อนออกจากกระดูก ด้วยการออกแรงดึงกระดูกออกจากเนื้อเบาๆก็หลุดแล้ว ร้านนี้ไม่ตอบโจทย์ครับ จิ้มซอสเปลี่ยนรสชาาติของซี่โครงหมูไปเรื่อยๆครับ แต่ที่ชอบสุดคือซอสบาร์บีคิว แก้เลี่ยนด้วยโควสลอว์เย็นๆตาม แปปเดียวหมดซะแล้วครับ
จานต่อมาเป็น "สปาเก็ตตี้เบคอนไข่ออนเซ็น" ราคา 250 บาท เป็นสปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง กระเทียม น้ำมันมะกอก มะกอกดำ โรยด้วยผงชีส เบคอนกรอบ และไข่ออนเซ็น จานนี้โดยความรู้สึกแล้ว ค่อนข้างจืดไปนิดนึง เพราะไข่ออนเซ็นกลบรสที่จัดจ้านของสปาเก็ตตี้สไปซี่เบคอนลงไป แต่ตัวเส้นลวกมาได้ดี มีความเค็มอ่อนๆ ไม่จัดจ้านมาก แต่พอกัดโดนพริกแห้งก็เผ็ดซี๊ดเหมือนกันนะ เหมือนเน้นกลิ่นอโรมาของวัตถุดิบ และหลายสัมผัสจากหลากวัตถุดิบในจานเดียว ใครที่ชอบทานรสชาติไม่จัดมาก แนะนำจานนี้เลยครับ แต่ระวังพริกแห้งหน่อยนะ
ตามมาด้วย "แซลมอนพันร๊อกเก็ต" ราคาจานนี้ 290 บาทครับ เป็นการผสมกันระหว่าง แซลมอนแช่น้ำปลา กับสลัดผักร๊อกเก็ต มี 2 สัมผัสในจานเดียว คือความนุ่มมันของปลาแซลมอน และความกรอบของผักร๊อกเก็ต กับน้ำสลัด 2 แบบ ทั้งน้ำจิ้มซีฟู๊ดทานกับกระเทียมสด มะกอกดำ และน้ำสลัดบัลซามิก กลายเป็นว่า เปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นบัลซาามิก และกระเทียมพริกแบบไทยเล็กน้อย ลงตัวมากครับ จานนี้รสจัดจ้านเด็ดมากเลยครับ ขอแนะนำ
เมคยทานในเมนูบุฟเฟ่ต์มาก่อนจำได้ว่าอร่อยมาก แต่เป็นเนื้อวัว จานนี้เป็นไก่ "สลัดไก่ย่างบาร์บีคิว" ราคา 240 บาท ไก่ย่างที่นี่มีการหมักเครื่องเทศสมุนไพรไทยเข้าไป จนรสชาติออกมาคล้ายกับไส้อั่วแต่ไม่เผ็ด ตัวไก่เนื้อนุ่ม ทานกับผักต่างๆ ราดน้ำสลัดญี่ปุ่นหอมงาเบาๆ อร่อยมากครับ ประทับใจตั้งแต่ทานครั้งที่แล้วเมื่อปีก่อน วันนี้กลับมาทานก็ยังรสชาติอร่อยเหมือนเดิม เป็นเมนูสลัดที่อร่อยไม่เหมือนร้านไหนจริงๆครับ จานนี้แนะนำเลย !
ระหว่างที่อร่อยเพลินกับอาหารเต็มโต๊ะอยู่นั้น คิดไปมาว่า ร้านนี้มีบุฟเฟ่ต์สเต็กด้วย อยากลองดูสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าจะไหวไหม เพราะทั้งโต๊ะที่เห็นนี่ต้องทานกัน 2 คนครับ เดี๋ยวทานให้หมดก่อนแล้วค่อยสั่งเพิ่มดีกว่าครับ
กำลังนั่งทานอยู่ดีๆ น้องพนักงานก็ยกกระเป๋านี้ออกมาให้ครับ ด้านในบรรจุเกลือและพริกไทยหลากหลายแบบด้านในเตรียมไว้ให้ลิ้มลอง มีทั้งเกลือสีม่วง เกลือสีดำ เกลือสีแดง เกลือสีชมฟู เกลือสมุทร พริกไทย และสมุนไพรอื่นๆอีก 4 อย่าง เห็นแบบนี้แล้วอยากลองครับ สั่งสเต็กมาลองสักจานก็แล้วกัน โดยการเสิร์ฟกระเป๋าเกลือและพริกไทยแบบนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 62 เป็นต้นไปครับ ใครไม่ได้กระเป๋าแบบนี้มาเสิร์ฟ ถามพนักงานได้เลยครับ
มาแล้วครับสเต็กที่สั่งไป "ริปอายสเต็ก (ออสเตรเลีย)" ราคา 580 บาท มาพร้อมกับสลัดที่ราดน้ำสลัดญี่ปุ่นแบบเดียวกับสลัดไก่บาร์บีคิว มันบดราดน้ำเกรวี่ (อร่อยมาก คล้ายมันบด KFC แต่หอมเนยและเกรวี่รสเข้มข้นกว่า) และน้ำซอสเกรวี่พริกไทยดำ (อร่อยมาก ถึงพริกไทยดำ หอมเค็มกำลังดี) ผักโขมผัดเนย (รสเค็มมันหอมเนย) มะเขือเทศอบ (โรยหน้าด้วยเกล็ดขนมปัง ให้รสเปรี้ยวกรอบแปลกๆ) สเต็กก็เนื้อนุ่มดี มีกลิ่นเนื้อค่อนข้างแรงไปนิด (ก็เนื้อออสเตรเลียนี่เนอะ) แต่ก้อนกลมๆที่วางบนสเต็ก มันไม่ใช่เนย หรือเนยกระเทียม แต่เป็น "บลูชีส" จ้า จากของอร่อยๆ รสชาติบลูชีสทำให้พังพินาศในพริบตา ใส่เกลือม่วง หรือเกลือสีไหนๆก็ไม่รู้รสแล้วครับ บลูชีสกลบกลิ่นหมดแล้ว ถามน้องพนักงานว่า "ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะใส่บลูชีสลงไป" น้องบอกว่า "ปกติจะถามทุกครั้งค่ะ" อ้าวแล้วทำไมของผมไม่ถาม ได้แต่คำขอโทษครับ บอกเลยว่าจานนี้นี่ทำให้เสียอารมณ์มาก เพราะถ้าคนไม่ทานบลูชีสขึ้นมาแล้วเกิดเหม็นทนไม่ไหว จนต้องอาเจียนกลางร้านนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะครับ รบกวนปรับปรุงตรงนี้ด้วย
ต้องขอน้ำดื่มเพิ่มเพื่อล้างปากจากบลูชีสเมื่อกี้ทีเดียว มื้อนี้ถ้ารวมทั้งหมดแล้ว 2,330 บาท ไม่รวม Service Charge 10% ครับ ถ้ารวมแล้วก็ 2,563 บาทครับ (แต่มื้อนี้ทางร้านเป็น Sponsor ครับ จ่ายแค่ค่าสเต็กอย่างเดียว) 580 + Service Charge 10% = 638 บาทครับ ถามว่าอาหารอร่อยไหม ถ้าเทียบกับปีก่อนที่มาทานร้านนี้ แต่สาขา Siam Paragon ในรูปแบบบุฟเฟ่ต์จองจาก Hungry hub บอกเลยว่ารสชาาติเหมือนกันครับ โดยเฉพาะซี่โครงหมู กับสลัด นอกนั้นเพิ่งเคยลองชิมครั้งนี้ มีจานที่อร่อยถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง แต่ก็ยินดีมารีวิวให้เพื่อให้ทางร้านปรับปรุงพัฒนาต่อไปครับ แต่สำหรับวันนี้ผมให้คะแนน 4 ดาวครับ 🌟 🌟 🌟 🌟 สำหรับอาหารที่ทางร้านอยาก Present แต่ส่วนตัวแล้วเอาไป 3 ดาวพอครับ 🌟 🌟 🌟 ขอตัดคะแนนเรื่องสเต็กเหม็นบลูชีสนอกนั้นดีแล้วครับ น้องๆในร้านบริการเอาใจใส่ดี ราคาอาหารต่อจานก็ไม่ได้แพงจนเกินไป ใครที่รู้ตัวว่าทานบุฟเฟ่ต์ร้านนี้ไม่น่าจะคุ้ม ก็เลือกเป็น A La Carte ได้ครับ ราคารวมแล้วพอรับได้รสชาติค่อนข้างดี ยกเว้นสเต็กใส่บลูชีสนะจ๊ะ
สุดท้ายนี้ขอใส่รูปเมนูของร้าน Salt // Pepper เอาไว้ เผื่อเพื่อนๆคนไหนวางแผนว่าจะไปทานที่ร้านนี้ได้เตรียมงบประมาณไปได้อย่างถูกต้องครับ (ราคาอาหารที่เห็นยังไม่รวมค่าบริการ 10% ทุกเมนูนะจ๊ะ)
พิกัด : Central World ชั้น 7 ถนนพระรามที่1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เปิดทุกวัน 10.00 - 22.00 น. โทร.094-249-0409
Facebook : https://www.facebook.com/saltpepperfanpage/
อ่านแล้วถูกใจ อย่าลืมกดไลค์เพจของเราด้วยที่นี่ >https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/< และอย่าลืมกด See First จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่สนุกๆแบบนี้ของเรานะ 😘😘😘
Comments