วันนี้แวะมาทำธุระย่านรามอินทราก่อนขับรถขึ้นทางด่วนกลับบ้านฝั่งธนบุรีมาเดินหาร้านอาหารอร่อยๆทานกันที่ห้าง The Crystal Park อยู่บนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ไม่ได้แวะมานานตอนนี้มีการแบ่งเป็นโซนเก่ากับใหม่แยกตึกออกจากกัน เดินมาที่โซนเก่าชั้น 2 จำได้ว่าเคยมีร้านฮั่วเซ่งฮง (ตอนนี้ปิดบริการไปนานแล้ว) แต่ยังมีอีกร้านนึงที่อยู่นานมากๆแล้วยังไม่ปิดตัวคือ Yuu Restaurant สาขาแถวบ้านก็มีและทานบ่อยมากอยู่แล้ว แต่ว่าที่นี่เขามีเมนูพิเศษอย่างชาบู-ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นมาเพิ่ม (ปกติสาขาพระราม 3 มีแต่เมนูปิ้งย่าง) ซึ่งน่าสนใจดีและยังมีโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 18 ปีเนื้อวากิว A5 ลดจากราคาเต็มชิ้นละ 1,690 บาท เหลือ 997 บาท เท่านั้น (ประหยัดไป 693 บาท) ปรึกษากับคุณแฟนอยู่หน้าร้านสักพักว่าจะทานกันดีไหม แต่สาวกเนื้ออย่างพวกเราแน่นอนว่าต้องลองแล้วมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันครับ วิธีการเดินทางมาที่ห้างนี้แนะนำว่ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือโบกแท๊กซี่ขึ้นทางด่วนมาลงที่หน้าห้างสะดวกที่สุด แต่ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง MRT สถานีลาดพร้าวหรือ BTS สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วเรียกรถมาตาม Google Maps ได้เลยครับผม (ถ้าอยากจะประหยัดกว่านี้มีรถสองแถวคันสีแดงวิ่งระหว่างห้างเอ็มโพเรียมลาดพร้าวกับตลาดถนอมมิตรผ่านหน้าโครงการ) ก็ถือว่าเดินทางมาได้ได้หลากหลายช่องทาง ส่วนบรรยากาศสาขานี้มีความแตกต่างเมื่อเทียบกับสาขาแถวบ้านเรายังไงเดินเข้าไปดูด้านในพร้อมกันเลยครับ
บรรยากาศภายในร้านแตกต่างจากสาขาพระราม 3 ที่ผมมักจะไปทานประจำก็คือความพรีเมี่ยมและขนาดของร้านใหญ่กว่ารวมถึงมีที่นั่งให้เลือกหลายโซน หลักๆแบ่งออกเป็นโซนปิ้งย่างกับชาบูชาบูมีห้องส่วนตัวรองรับลูกค้าได้ 10-12 คนจำนวน 2 ห้อง (มีฉากกั้นสามารถรวมเป็นห้องเดียวกันได้) และห้องส่วนตัวสำหรับทานชาบูๆอีก 1 ห้อง (เป็นโต๊ะกลมหันหน้าเข้าหากันนั่งรวมกันได้ 8-10 คน) โดยแต่ละโซนมีเตาฝังอยู่ใต้โต๊ะซึ่งมีข้อดีก็คือไม่เกะกะแต่ก็มีข้อเสียอีกอย่างคือไม่สามารถนั่งรวมกันได้ทั้งเพราะเตาย่างและเตาไฟฟ้าย้ายไป-มาไม่ได้นั่นเอง เข้ามาถึงพนักงานจะถามเลยว่ามาทานเป็นชาบูหรือปิ้งย่าง ปรึกษามองหน้ากันสักพักขอลองเป็นชาบูก่อนเพราะสาขาแถวบ้านยังไม่มีให้บริการและที่สำคัญคือน้องพนักงานบอกว่ามาทานชาบูที่ร้านนี้คุ้มกว่าปิ้งย่างมากๆต้องลองก่อนครับว่าจะจริงไหม
ปกตินั่งที่โซนไหนพนักงานก็จะนำเล่มเมนูของโซนนั้นออกมาให้บริการแต่เราขอมาทั้ง 2 เล่มเลยเพื่อจะได้ดูว่ามีรายการอะไรอัพเดทบ้าง เมนูส่วนใหญ่ในเล่มก็เหมือนๆเก่าแต่เพิ่มโปรโมชั่นเนื้อวากิว A5 ลดราคาจาก 1,690 บาทเหลือ 997 บาท นอกนั้นก็ราคาเดิมเหมือนเล่มเมนูที่เคยถ่ายรีวิวตรงสาขาพระราม 3 (เปลี่ยนแค่ป้ายโปรโมชั่นหน้าแรกเพียงอย่างเดียว) โดยรีวิวนี้เราจะมาโฟกัสที่เมนูชาบูขั้นตอนแรกเลือกได้เลยว่าจะทานชาบูชาบูหรือสุกี้ยากี้น้ำดำทั้ง 2 เมนูนี้มีข้อแตกต่างคือก็ชาบูชาบูสามารถเปลี่ยนซุปได้ 2 รสชาติทานคู่กับน้ำจิ้มได้ถึง 4 ชนิด ส่วนเมนูสุกี้ยากี้นั้นจะได้ความเข้มข้นหวาน-เค็มกลมกล่อมจากชาบูน้ำดำจิ้มไข่ดิบแล้วเข้าปากสไตล์ญี่ปุ่นได้ฟินห์ๆแบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม ในชุดมีผักสด/ไข่ไก่/ซุปมิโสะ/ข้าวสวย/สลัด/อาหารทานเล่นประจำวันและขนมหวานให้อย่างละ 1 อย่างฟรี มาที่ขั้นตอนถัดไปคือสั่งเนื้อมีให้เลือกตั้งแต่หมูโชกุนราคา 150 บาท ไปจนถึงเนื้อวัววากิวระดับ A5 สไลด์ขนาด 150 กรัมราคา 1,500 บาท นั่นก็หมายความว่าแค่สั่งหมูโชกุนเพียงจานเดียวก็ได้ชุดอาหารชาบูชาบูหรือสุกี้ยากี้ไปเลย 1 ฟรี ถ้ายังไม่อิ่มก็สามารถสั่งชุดผัก/ข้าวสวย/เส้น/ไข่ไก่และอาหารทานเล่นต่างๆได้ตามราคาที่ทางร้านกำหนด ส่วนเครื่องดื่มมีให้บริการเป็นแบบ A La Carte ถ้าจะประหยัดหน่อยมีชาเขียวมัทฉะกับชาข้าวรีฟีลราคาคนละ 50 บาท ราคาอาหารถือว่าคุ้มมากๆแต่ในชุดจะให้บริมาณเยอะขนาดไหนเดี๋ยวเราสั่งไปคนละ 1 เซ็ตแล้วรอมาเสิร์ฟที่โต๊ะครับ
เนื่องจากที่ร้านไม่มีหม้อ 2 ช่องบริการแล้วเลยสั่งให้น้องพนักงานมาเสิร์ฟทีละชุดเริ่มจากชุดสุกี้ยากี้เนื้อวัววากิว A4 ขนาด 150 กรัมราคา 1,150 บาท มาพร้อมชุดผักถ้วยใหญ่โตอลังการอัดแน่นไปด้วย กวางตุ้งฮ่องกง/ผักกาดขาว/หัวหอมใหญ่/เห็ดเข็มทอง/เห็ดออเร็นจิ/ต้นหอมญี่ปุ่น/แครอท/เต้าหู้ทอดญี่ปุ่น/เห็ดหอมสด/เส้นบุกขาวและไข่หวาน นอกจากนี้ยังมีสลัดที่ราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวหอมโชยุน้ำมันงาสไตล์ญี่ปุ่น/ข้าวสวยญี่ปุ่น/ซุปมิโสะ/ไข่ไก่สดและหัวไชเท้าดอง ซุปสุกี้ยากี้ใส่มาในถ้วยขนาดใหญ่พร้อมน้ำร้อนสำหรับเจือจางความเข้มข้นลง ส่วนเนื้อวากิว A4 ของที่ร้านนี้ก็ลายหินอ่อนสวยงามสไลด์มา 6 แผ่นบางๆเรียงกันดูดีสุดๆ ก่อนที่เราจะเริ่มทานน้องพนักงานจะขอเริ่มการสาธิตวิธีการทานสุกี้ยากี้ตามแบบฉบับแดนอาทิตย์อุทัยแท้ๆให้ได้ชมกันจะได้รับความอร่อยถูกต้อง 100 % ครับ
ขั้นตอนแรกเปิดเตาแบบไม่ต้องรอให้หม้อร้อนเทน้ำซุปดำลงไปพอท่วมก้นหม้อ เมื่อน้ำซุปเริ่มเดือดให้เอาเนื้อวัวที่เราสั่งมาลงไปปาดซ้าย-ขวาสัก 2 รอบก็ยกขึ้นทันทีพอเนื้อวากิว A4 สุกอมชมพู นำจุ่มลงไปในไข่ไก่สดที่ตีไว้แล้วจนชุ่มฉ่ำก่อนจะนำเข้าปาก สัมผัสแรกคือความนุ่มละมุนของไขมันที่แทรกในเนื้อให้ความหยุ่นๆหอมกลิ่นเนื้อวัวบางๆผสมกับซุปสุกี้ยากี้รสหวาน-เค็มแต่ถูกทำให้นุ่มนวลกลมกล่อมลงมาด้วยไข่ไก่สด ทุกๆอย่างลงตัวและช่วยส่งเสริมกันทำให้เนื้อวัวอร่อยฟินห์มากยิ่งขึ้น ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราว่าจะทานแบบไหนสนุกกับชุดอาหารได้ตามใจครับ
เราสองคนชอบทานผัก-เห็ดต้มเปื่อยๆและน้ำซุปซึมเข้าวัตถุดิบแบบขีดสุดเลยเอาชุดผักสดทุกอย่างใส่ลงไปในหม้อพร้อมๆกัน ระหว่างนั้นก็ทานสลัดผักสด/ซดซุปมิโสะ/ผักดองพร้อมกับคีบผักต้มและเนื้อชาบูไปเรื่อยๆจนหมด เคล็ดลับสุดท้ายคือเหลือข้าวกับไข่ไก่บางส่วนเอาไว้และอย่าใส่น้ำซุปลงไปในหม้อมากจานเกินไป จากนั้นเอาวัตถุดิบที่เหลือลงไปในหม้อผัดทุกอย่างให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวก็จะได้ข้าวผัดซอสสุกี้ยากี้ใส่ไข่รสหวาน-เค็มเข้มข้นหอมกลิ่นไขมันเนื้อวัววากิวญี่ปุ่นไว้ทานปิดท้ายมื้อแบบฟินห์ๆ เรียกได้ว่าทานเกลี้ยงหม้อไม่เหลือให้พนักงานล้างจานเลยครับ
เมนูต่อมาเป็นชุดเนื้อพรีเมี่ยมไทยเฟรนซ์ราคา 630 บาท มาพร้อมซุปคัตสึโอะดาชิหรือปลาโอแห้งซึ่งทุกๆอย่างคล้ายกับชุดที่แล้วสิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือมีน้ำจิ้มให้ทาน 2 สูตรคือน้ำจิ้มงากับยูสุพอนสึ (ส่วนอีก 2 น้ำจิ้มคือสุกี้ไทยกับ Yuu สั่งเพิ่มได้ไม่คิดเงิน) ชุดผักตัดกวางตุ้งฮ่องกงกับหอมใหญ่ออกและเพิ่มปริมาณผักกาดขาวส่วนเส้นบุกนั้นก็เปลี่ยนเป็นอูด้งแทน แน่นอนว่าชุดนี้น้องพนักงานก็เข้ามาสาธิตวิธีการทานเช่นเคยคือต้มซุปให้เดือดจัดๆก่อนจะนำเนื้อวัวลงไปลวกสะบัดแค่ 2-3 ทีพอเนื้อวัวเปลี่ยนสีก็นำไปจิ้มกับซอสงารสเค็มมันๆหอมงาผสมถั่วลิสงหรือซอสยูสุพอนสึรสเค็มเปรี้ยวหอมกลิ่นเปลือกส้มยูสุสดชื่นช่วยตัดเลี่ยนไขมันเนื้อวัวรสชาติเข้มข้นได้เป็นอย่างดี ต่อจากนี้เราก็ทานตามสไตล์ของตัวเองแน่นอนว่าชาบูชาบูแบบนี้ต้องเพิ่มรสชาติของผักต่างๆลงไปเต็มหม้อช่วยเพิ่มความอูมามิให้กับน้ำซุปที่จืด-เค็มอ่อนๆหอมกลิ่นปลาโอแห้งสูตรของที่ร้านจนได้ความหวานกลมกล่อมอร่อยมากยิ่งขึ้นครับผม
ระหว่างนี้ก็ทานเนื้อ/เส้นอูด้งและผักต่างๆในชุดจนหมดและสุดท้ายก็เหลือไข่ไก่กับข้าวสวยเอาไว้เพื่อทำข้าวต้มซุปปลาที่ผสมความหวานของผักต้มกับไขมันวัวเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม เรียกได้ว่าสัมผัสความอร่อยจากวัตถุดิบอย่างคุ้มค่าจนถึงคำสุดท้ายอย่างแท้จริงเรียกได้ว่าชุดนี้คุ้มสุดๆเพราะให้ปริมาณเยอะและอิ่มกำลังดี ส่วนของหวานก็มีให้ในชุดคนละ 1 ถ้วย เป็นเต้าฮวยนมสดเนื้อละมุนส่วนนมมีกลิ่นหอมมันรสหวานอ่อนๆใส่ถั่วแดงบดเนื้อเนียนช่วยเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นทานแล้วอร่อยเย็นสดชื่นลงตัวสุดๆ จากนั้นได้เวลาเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินที่โต๊ะกันเลยครับผม
ระหว่างรอคิดเงินทางร้านก็นำเอากิจกรรมพิเศษมาให้เล่นคือพูดคำว่า "I'm In Love With Yuu" ให้ได้เวลาที่ยาวนานสุดแบบเสียงไม่ขาดตอนมี 2 รางวัลคือรับ 10,000 บาท (ในกรณีที่เปล่งเสียงได้ยาวนานสุด) 3,000 บาทสำหรับคนที่มีลีลาโดนใจสุด กิจกรรมหมดเขต 31 ธันวาคม 2563 นี้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆดูที่ Facebook ของทางร้านเอานะครับ คุยเล่นๆกับคุณแฟนว่าอิ่มไหม ? นางบอกว่ายังไม่อิ่มเท่าไหร่และอยากรู้ด้วยว่าเนื้อ A5 ที่มีโปรโมชั่นจะอร่อยกว่า A4 ที่เราทานไปมั้ย สุดท้ายเลยย้ายตัวจากโซนชาบูไปที่ปิ้งย่างเพื่อทานเนื้อย่างกันต่อครับ มานั่งที่โต๊ะพนักงานก็ยกเตาถ่านและน้ำจิ้มต่างๆมาวางไว้ให้เตรียมพร้อมเหมือนเราเพิ่งมาทานที่ร้านใหม่ๆ (ราวกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น) จัดการสั่งอาหารต่างๆให้เรียบร้อยแต่เนื้อ 997 นั้นมีเงื่อนไขคือต้องโพสต์รูปในร้านลง Facebook ตั้งค่าโพสต์ให้เป็นสาธารณะพร้อมเช็คอินร้านเท่านั้นถึงจะได้ 1 สิทธิ์ (จำกัดเพียง 1 จานต่อบิลแต่ถ้าเป็นสมาชิกที่ร้านก็สามารถสั่งได้ 2 จาน) โปรโมชั่นมีจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ทำตามเงื่อนไขเสร็จเนื้อก็ถูกยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะครับ
"เนื้อวากิว A5 นำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆที่ฉันไฝ่ฝัน" ราคาปกติ 1,690 บาทลดเหลือ 997 บาท ที่ร้านเสิร์ฟมาเป็นเนื้อส่วนเซอร์ลอยด์ขนาด 150 กรัม ใส่มาในกล่องข้าวสไตล์ญี่ปุ่นลายนกกระเรียนพร้อมกับ Dry Ice ที่เปิดมาควันพวยพุ่งถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ในกล่องนอกจากเนื้อแล้วยังมีแครอท/ฟักทองและต้นหอมญี่ปุ่นให้ปิ้งทานได้อีก วิธีการย่างเนื้อชนิดนี้ทางร้านแนะนำว่าต้องเริ่มจากเตาถ่านต้องไฟแรงๆ ลงเนื้อวัว A5 ไปในเตานับถอยหลังแค่ 1-5 ก็ยกเนื้อขึ้นมาทานได้ทันที สิ่งที่ได้คือเนื้อวัววากิว A5 ไขมันแทรกละเอียดที่ด้านนอกกรุบกรอบเหมือนเนื้อทอดแต่ข้างในยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จิ้มแค่เกลือพริกไทยหรือน้ำจิ้มยากินิคุสูตรพิเศษของทางร้านก็อร่อยสุดๆ ส่วนความแตกต่างจากเนื้อ A4 นั้นแยกไม่ได้เพราะคนละวิธีการปรุงแต่ตอนนี้เขาลดราคาอยู่ทาน A5 ดีกว่าครับผม
จานต่อไปเป็นเมนูที่เราทานเป็นประจำก็คือ "หมูตันโตะ" ราคา 150 บาท เป็นหมูสามชั้นหมักกระเทียมแบบเข้มข้นที่เวลาย่างต้องรีบพลิกไป-มาเพราะไขมันหมูสามชั้นทำให้ไฟพุ่งพล่านและกระเทียมไหม้ง่ายสุดๆ โดยวิธีการทานให้อร่อยแนะนำว่าจิ้มแค่น้ำมะนาวก็อร่อยแทนลิ้นวัวกระเทียมย่างราคาแพงๆได้เลยครับ เมนูต่อมามีพนักงานแนะนำเลยสั่งมาคือ "หมึกอิดาโกะ" ราคา 165 บาท เป็นปลาหมึกทาโกะตัวเล็กหรือที่บ้านเราเรียกว่าปลาหมึกสายแต่ตัวนี้เนื้ออวบอ้วนมากกว่า ราดด้วยซอสเกาหลีเมื่อเอาไปย่างจึงรสชาติออกมาคล้ายกันกับเมนู Jukkumi หรือปลาหมึกสายย่างซอสพริกของเกาหลี เห็นว่าเครื่องเคียงของที่ร้านนี้มีให้ทานเป็นสไตล์เกาหลีได้ด้วยเลยสั่งมาเพิ่มอีกครับผม
เครื่องเคียงอย่างแรกคือ "ผักกาดหอมสด" ราคา 90 บาท ผักกาดหอมของที่ร้านนี้ดีอย่างนึงก็คือไม่ขมแถมคัดมาแต่ใบใหญ่ๆห่อเนื้อได้เต็มๆคำ "กิมจิ" ราคา 100 บาท เป็นกิมจิรสเปรี้ยวหวานตามด้วยเค็มอ่อนๆมีความคล้ายๆกับกิมจิสดทานคู่กับปลาหมึกย่างซอสได้ความอร่อยสไตล์เกาหลีเต็มๆ และอีกเมนูเด็ดที่ผมกับแฟนมาที่ร้านนี้มักจะสั่งทานเป็นประจำคือ "ข้าวผัดกระเทียม" ราคา 65 บาท ที่อื่นจะเป็นข้าวผัดเนยใส่กระเทียมทอกกรอบโรยที่ด้านบน แต่สูตรของที่ร้านนี้คือการสับกระเทียมเจียวให้ละเอียดลงไปผสมกับข้าวสวยผัดเนยทำให้ได้รสชาติของกระเทียมที่เข้มข้นในทุกจุดยิ่งทานกับเนื้อย่างแทบไม่ต้องผสมกระเทียมสดลงไปในน้ำจิ้มเลยครับ (แค่ทานกับข้าวผัดก็พอแล้ว)
จานสุดท้ายก็เป็นเมนูที่น้องพนักงานแนะนำมาตั้งแต่ต้นแต่ที่ร้านเขาทอดให้ใหม่ๆเลยต้องใช้เวลาในการรอหน่อยคือ "หมึกอิดาโกะคาราอาเกะ" ราคา 195 บาท เป็นปลาหมึกทาโกะตัวเล็กนำไปชุบแป้งทอดกรอบแบบคาราอาเกะร้อนๆราดด้วยซอสแบบเดียวกับทาโกะยากิโรยหน้าด้วยปลาคัตสึโอะแห้งและสาหร่าย เวลาทานได้ความกรุบกรอบของแป้ง/เนื้อปลาหมึกสู้ฟันส่วนซอสและส่วนประกอบอื่นๆทำให้รสชาติออกมาเป็นทาโกะยากิแบบไม่ใส่แป้ง ก็เรียกได้ว่าเป็นสัมผัสใหม่ของการทานปลาหมึกในรสชาติที่คุ้นเคยและหาไม่ได้จากที่ร้านอื่นๆ แนะนำเลยว่าต้องสั่งครับผม
สุดท้ายเครื่องดื่มนอกจากน้ำเปล่าแล้วที่ร้านนี้มีจุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้เราติดใจคือส้มยูสุหอมมากๆ ก็เลยสั่งมาดื่มคนละ 1 แก้วคือ "ยูสุโซดาและยูสุเฟรช" ราคาแก้วละ 75 บาท เป็นน้ำส้มยูสุหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นเปลือกส้มแก้วนึงเป็นแบบเย็นปกติส่วนอีกแก้วเป็นแบบใส่โซดาซ่าๆดื่มแล้วสดชื่นช่วงลดความเลี่ยนจากเนื้อย่างมันๆเมื่อกี้ได้ดีสุดๆ มื้อนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนคือชาบูสั่งไป 2,165.68 บาท ปิ้งย่าง 2,073.87 บาท ราคานี้มี Vat. และ Service Charge อีก 10+7% ตามลำดับ มื้อนี้จ่ายไปทั้งหมดรวม 4,239.55 บาท ถือว่าราคาสูงแต่เราได้สั่งเนื้อวากิวระดับ A4 กับ A5 มาอย่างละ 1 จานก็ถือว่าสมเหตุผล ส่วนใครอยากทานแบบประหยัดเงินหน่อยที่นี่ก็มีเนื้อวัวราคาถูกแต่คุณภาพดีหลายเมนูทานเป็นชาบูชาบูได้ชุดผักกับข้าวสวยฟรีๆรับรองว่าอิ่มคุ้มราคาอย่างแน่นอนครับ สำหรับที่ร้าน Yuu Restaurant สาขา The Crystal Park เลียบทางด่วนรามอินทราก็ได้รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเต็ม 5 ดาวเช่นเคยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านตั้งกิจการอยู่มาได้ยาวนานถึง 18 ปีเต็มครับผม🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : โครงการ The Crystal Park เลียบทางด่วนรามอินทรา ห้อง D206 เลขที่ 64/98 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น. โทร. 02-515-0682
Facebook : https://www.facebook.com/yuubarbqandshabusuki
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments